“ทรัมป์-จีน” เตือนพลเรือนรีบอพยพจาก "อิหร่าน-อิสราเอล" หลังสถานการณ์ในตะวันออกกลางทวีความดุเดือด

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอเมริกาเดินทางออกจากการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือ G7 ที่แคนาดาก่อนกำหนด หลังสถานการณ์ในตะวันออกกลางทวีความดุเดือด


แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกของทำเนียบขาวเผยว่าเนื่องจากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ประธานาธิบดีทรัมป์จะเดินทางกลับจากการประชุม G7 ในคืนนี้ หลังรับประทานอาหารค่ำร่วมกับผู้นำของประเทศต่าง ๆ


นอกจากนี้ โฆษกของทำเนียบขาวยังบอกว่า ในการประชุมครั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้บรรลุข้อตกลงด้านการค้ากับสหราชอาณาจักรเป็นที่เรียบร้อย


ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าก่อนที่จะเดินทางกลับ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขอให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (NSC) เตรียมความพร้อมใน “ห้องสถานการณ์ฉุกเฉิน (Situation Room)” ด้วย


โดยสภาความมั่นคงแห่งชาติ (NSC) ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล เช่น รัฐมนตรีต่างประเทศ, รัฐมนตรีกลาโหม, และผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ โดยทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่ประธานาธิบดีในเรื่องความมั่นคงและนโยบายต่างประเทศ


นอกจากนี้ ทรัมป์ยังมีการโพสต์ข้อความลง Truth Social แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตนเองระบุว่า อิหร่านควรลงนามใน “ข้อตกลง” ที่ผมบอกให้พวกเขาลงนาม ช่างน่าเสียดาย และทำให้ต้องสูญเสียชีวิตผู้คน พูดง่ายๆ ก็คืออิหร่านไม่สามารถมีอาวุธนิวเคลียร์ได้ ผมพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า! ทุกคนควรอพยพออกจากเตหะรานทันที!


ด้าน สถานทูตจีนได้ออกแถลงการณ์ผ่าน WeChat มีข้อความเรียกร้องให้พลเรือนของตนเดินทางออกจากอิสราเอลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากอิสราเอลและอิหร่านเปิดฉากโจมตีกันอย่างหนักหน่วง ในแถลงการณ์แนะนำให้อพยพทางบก ออกไปทางจอร์แดน


สถานทูตยังระบุด้วยว่า การโจมตีทำให้โครงสร้างพื้นฐานได้รับความเสียหาย พลเรือนเสียชีวิตเพิ่มขึ้น และสถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อย ๆ