ต่างประเทศ
"อิหร่าน"ตอบโต้ "อิสราเอล" ส่งโดรนกว่า 100 ลำถล่ม "กรุงเยรูซาเล็ม-นครเทล อาวีฟ" ดันราคาน้ำมันโลกพุ่งกว่า 7%
โดย paranee_s
14 มิ.ย. 2568
399 views
สถานการณ์ตะวันออกกลางร้อนระอุ หลังอิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่านทางอากาศตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้อย่างหนักหน่วง มีผู้เสียชีวิตในอิหร่าน 78 คน บาดเจ็บกว่า 320 คน ขณะที่อิหร่านตอบโต้กลับส่งโดรนกว่า 100 ลำยิงขีปนาวุธถล่มอิสราเอลสองเมืองใหญ่ทั้งที่กรุงเยรูซาเล็ม และเทล อาวีฟ
การถล่มโจมตีอย่างหนักนี้คาดว่าจะยืดเยื้ออีกหลายวัน หลังจากที่ผู้นำอิสราเอล นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู การโจมตีไม่ได้มีขึ้นเพียงวันเดียว แต่จะดำเนินต่อไปอีกหลายวัน รายงานบางกระแสระบุว่า การโจมตีอิหร่านอาจใช้เวลานานอย่างน้อย 2 สัปดาห์
อิสราเอลยืนยันว่าการโจมตีอิหร่านเมื่อวานนี้มุ่งเป้าโจมตีผู้นำทางทหารและนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์รวมถึงฐานทัพทางทหารและโรงงานนิวเคลียร์ ปฏิบัติการโจมตีอิหร่านเมื่อวานนี้ อิสราเอลใช้ชื่อว่า ปฏิบัติการ "Rising Lion" โดยให้เหตุผลของการโจมตีเนื่องจากอิหร่านเป็นภัยคุกคามต่อ "ความอยู่รอดของอิสราเอล"
การโจมตีอิหร่านเมื่อวานนี้ (14 มิ.ย.) ทำให้ นายฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน และนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ของอิหร่านเสียชีวิตไป 6 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในอิหร่านทั้งหมดมี 78 คน บาดเจ็บกว่า 320 คน
ปฏิบัติการถล่มอิหร่านเมื่อวานนี้ อิสราเอลระดมเครื่องบินรบกว่า 200 ลำโจมตีเป้าหมายในอิหร่านมากกว่า 300 ครั้ง
ขณะที่สื่อรัฐบาลอิหร่านได้อ่านแถลงการณ์ของอายาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี นำสูงสุดของอิหร่าน ประกาศกร้าวว่า อิสราเอลจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงและว่า ตอนนี้อิสราเอลได้เผยให้เห็นมือที่เปื้อนเลือดต่อการก่ออาชญากรรมในอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งชุมชนที่พักอาศัยของประชาชน อิหร่านเตือนอิสราเอลให้เตรียมพร้อมรับความขมขื่นและความเจ็บปวดที่ตนเองเป็นผู้ก่อ ล่าสุดมีรายงานว่า อิหร่านได้ชักธงแดงเหนือมัสยิดในกรุงเตหะราน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่า พร้อมสำหรับการทำสงครามแล้ว
ทันทีที่อิหร่านประกาศตอบโต้ รัฐบาลอิสราเอล หลังจากที่ได้รับการแจ้งเตือนทั่วประเทศว่า จะมีการโจมตีในเร็ว ๆ นี้จากอิหร่าน ชาวอิสราเอลในนครเทล อาวีฟจำนวนมากได้แห่กันไปซูเปอร์มาร์เก็ตในท้องถิ่น เพื่อซื้ออาหารและของใช้จำเป็น
จากนั้นไม่กี่ชั่วโมง อิหร่านระดมโดรนกว่า 100 ลำมุ่งหน้าไปยังอิสราเอล จากระดมยิงขีปนาวุธไม่ต่ำกว่า 100 ลูกโจมตีเมืองต่างๆ ในอิสราเอล รวมถึงกรุงเยรูซาเล็มและ นครเทล อาวีฟด้วย
เมื่อวานนี้เสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นทั่วนครเทล อาวีฟ และกรุงเยรูซาเล็ม ขณะที่อิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลเมื่อวานนี้ เกิดกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นทั่วเมือง หน่วยแพทย์ฉุกเฉินของอิสราเอลรายงาน มีผู้ได้รับบาดเจ็บที่เทล อาวีฟ อย่างน้อย 34 ราย อิหร่านยังยิงขีปนาวุธโจมีอิสราเอลต่อระลอกสองเมื่อคืนที่ผ่านมาด้วย ขณะที่กองทัพได้สั่งให้ประชาชนทั่วประเทศอพยพเข้าไปอยู่ในหลุมหลบภัย
อิสราเอลได้เผยภาพ ไอร์ออน โดม (Iron Dome) ระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอล ที่สามารถยิงสกัดกั้นขีปนาวุธของอิหร่านเหนือกรุงเทลอาวีฟได้จำนวนมากด้วย
แม้อิสราเอลจะบอกว่า สามารถสกัดจรวดของอิหร่านได้ส่วนใหญ่ แต่ก็มีจรวดบางลูกที่ตกลงใจกลางเทล อาวีฟ ทำให้อาคารที่พักอาศัยได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีประชาชนบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง
ขณะที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตือนอิหร่านให้ยอมรับข้อตกลงนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง
ด้านผู้แทนจีนในสหประชาชาติ กล่าวในการประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยจีนได้ประณามอิสราเอลที่ “ละเมิดอธิปไตย ความมั่นคง และบูรณภาพแห่งดินแดนของอิหร่าน” นอกจากนี้จีนยัง “กังวลอย่างยิ่ง” เกี่ยวกับผลกระทบเชิงลบของสถานการณ์ปัจจุบันต่อการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่าน จีนยังได้เรียกร้องให้อิสราเอลหยุดปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงการยกระดับความรุนแรง พร้อมกับย้ำถึงสิทธิของอิหร่านในการ “ใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติภาพในฐานะผู้ลงนามในสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งควรได้รับการเคารพ
ข้อมูลจาก Flightradar 24 เผยว่า สายการบินต่างๆ ต้องเปลี่ยนเส้นทางและยกเลิกเที่ยวบินเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือ ทั้งนี้สนามบินนานาชาติเบนกูเรียน ในเทล อาวีฟถูกปิดจนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบ ส่วนสายการบินเอล อัล แอร์ไลน์ สายการบินแห่งชาติอิสราเอลก็ระงับเที่ยวบินทั้งไปและกลับจากอิสราเอล
ขณะที่อิหร่านก็ปิดน่านฟ้าจนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบเช่นกัน ส่วนอิรักและจอร์แดนก็ปิดน่านฟ้าและระงับการจราจรทางอากาศทั้งหมด มีรายงานว่า เที่ยวบินหลายเที่ยวที่จะลงจอดดูไบ ต้องเปลี่ยนเส้นทาง
ส่วผลให่ราคาน้ำมันโลกปิดตลาดในวันศุกร์ (13 มิ.ย.) ดีดขึ้นกว่า 7 % เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลว่าการสู้รบอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันจากตะวันออกกลางเป็นวงกว้าง
โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดตลาดล่วงหน้าที่ 74.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 4.87 ดอลลาร์ หรือ 7.02% หลังจากพุ่งขึ้นกว่า 13% สู่ระดับสูงสุดในรอบวัน แตะ 78.50 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้น 12.5% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว
ส่วนราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียตของสหรัฐฯ ปิดตลาดที่ 72.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 4.94 ดอลลาร์ หรือ 7.62% ในระหว่างการซื้อขาย ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 14% สู่ระดับสูงสุดตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม ที่ 77.62 ดอลลาร์ ส่วนราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 13% สู่ระดับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
แท็กที่เกี่ยวข้อง