ต่างประเทศ
รอยเตอร์สตีข่าว แฉจีนใช้กองทัพว้าแดง คุ้มกันเหมืองแร่หายากในเมียนมา
โดย nicharee_m
12 มิ.ย. 2568
323 views
สำนักข่าวรอยเตอร์สเผยรายงานเชิงลึก เปิดโปงปฏิบัติการของจีนในการใช้กองทัพสหรัฐว้า (UWSA) กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ทรงอิทธิพลในเมียนมาเข้าคุ้มกันเหมืองแร่หายากแห่งใหม่ในรัฐฉานเพื่อใช้เป็นเครื่องมือต่อรองในสงครามการค้ากับสหรัฐฯ
ท่ามกลางสถานการณ์สงครามการค้าที่ดุเดือดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ แร่หายาก หรือ rare earth ซึ่งเป็นหัวใจของการผลิตแม่เหล็กที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า (EV), อุปกรณ์ทางการแพทย์ และอาวุธยุทโธปกรณ์ ได้กลายเป็นปัจจัยตัวแปรสำคัญที่จีนพยายามรักษาความได้เปรียบเอาไว้
แม้ถึงว่าจีนจะครองตลาดการแปรรูปแร่หายากเกือบทั้งหมด แต่กลับต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบที่จำเป็นต่อการผลิตจากเมียนมา
การเข้าถึงแร่สำคัญ อย่าง ดิสโพรเซียม (dysprosium) และ เทอร์เบียม (terbium) ของจีนต้องหยุดชะงักเมื่อเร็ว ๆ มานี้ หลังแหล่งเหมืองแร่สำคัญในรัฐคะฉิ่น ทางตอนเหนือของเมียนมาถูกกลุ่มติดอาวุธฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลทหารเมียนมายึดครองไป
รอยเตอร์สซึ่งอ้างแหล่งข่าววงใน 4 รายและหลักฐานภาพถ่ายทางดาวเทียมได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ เหมืองแร่หายากแห่งใหม่ได้ผุดขึ้นมาราวดอกเห็ดในรัฐฉาน ทางตะวันออกของเมียนมา
ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวสองราย ซึ่งทำงานที่เหมืองแห่งหนึ่งระบุว่ามีคนงานชาวจีนกว่า 100 คนทำงานตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อขุดเจาะเนินเขาและสกัดแร่ด้วยสารเคมี ขณะเดียวกัน ชาวบ้านในพื้นที่ยืนยันว่าเห็นขบวนรถบรรทุกขนแร่มุ่งหน้าสู่ชายแดนจีนที่อยู่ห่างออกไป 200 กิโลเมตร
แม้จะไม่สามารถระบุเจ้าของเหมืองได้อย่างแน่ชัด เนื่องจากบันทึกทางธุรกิจในเมียนมานั้นได้รับการดูแลที่ไม่ค่อยดีและเข้าถึงยาก และรอยเตอร์สรายงานว่าเหมืองเหล่านี้ดำเนินงานภายใต้การคุ้มกันของ “กองทัพสหรัฐว้า (UWSA) หรือ ว้าแดง” ที่มีความสัมพันธ์ดีกับจีนมาอย่างยาวนาน และยังควบคุมเหมืองดีบุกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกด้วย นอกจากนี้ กองทัพว้าแดงยังหยุดยิงกับกองทัพเมียนมามาเป็นเวลานานแล้ว แถมยังมีกำลังพลอยู่ระหว่าง 30,000 – 35,000 นาย พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจากจีน
ภาพถ่ายดาวเทียมจาก Planet Labs และ Maxar Technologies แสดงให้เห็นว่า ในเดือนเมษายน 2566 พื้นที่ป่าในรัฐฉาน ห่างจากชายแดนไทยเพียง 30 กิโลเมตรเริ่มถูกทำลาย ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 พื้นที่เดียวกันกลายเป็นเหมืองขนาดใหญ่ที่มีบ่อชะล้างด้วยสารเคมีกว่าสิบบ่อ
นอกจากนี้ ภาพถ่ายจากดาวเทียมยังเผยให้เห็นพื้นที่ที่ถูกทำลายอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างออกไป 6 กิโลเมตร ข้ามแม่น้ำกก ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 และในอีกประมาณ 1 ปีต่อมา พื้นที่นั้นได้กลายเป็นโรงงานที่มีบ่อชะล้าง 20 บ่อ
นักวิเคราะห์ชี้ว่า โครงสร้างพื้นฐานและร่องรอยการกัดเซาะของหน้าดินบ่งชี้ว่าเหมืองเหล่านี้ได้เปิดดำเนินการผลิตมาระยะหนึ่งแล้ว และดำเนินการโดยบริษัทสัญชาติจีนทั้งหมด
คนงานเหมืองสองคนและสมาชิกสองคนของมูลนิธิสิทธิมนุษยชนรัฐฉาน (Shan Human Rights Foundation) กล่าวว่า มีเหมืองอย่างน้อยหนึ่งแห่งดำเนินการโดยบริษัทจีนที่ใช้ผู้จัดการที่พูดภาษาจีน คนงานคนหนึ่งซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อเพื่อพูดคุยเรื่องที่ละเอียดอ่อนกล่าวว่า สำนักงานแห่งหนึ่งในสองแห่งยังมีโลโก้บริษัทที่เขียนด้วยอักษรจีน
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าการทำเหมืองในเมียนมาซึ่งมีกฎระเบียบหละหลวม ทำให้จีนสามารถผลิตแร่หายากได้ในต้นทุนที่ถูกกว่าที่อื่นถึง 7 เท่า และด้วยการควบคุมเทคโนโลยีการสกัดอย่างเบ็ดเสร็จ ทำให้แทบเป็นไปไม่ได้ที่เมียนมาจะทำเหมืองลักษณะนี้โดยปราศจากความช่วยเหลือจากจีน
แท็กที่เกี่ยวข้อง รอยเตอร์ส ,จีน ,เมียนมา ,กองทัพว้าแดง ,เหมืองแร่หายาก