ต่างประเทศ

"Jetstar Asia" ประกาศปิดกิจการ สิ้นเดือน ก.ค.นี้ ชี้พิษต้นทุนพุ่ง-การแข่งขันสูง

โดย nutda_t

11 มิ.ย. 2568

442 views

แควนตัส กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ร่วมถือหุ้นและเป็นสายการบินแม่ของเจ็ทสตาร์ เอเชีย ระบุว่าการปิดกิจการเกิดขึ้น เนื่องจากสายการบินราคาประหยัดแห่งนี้ประสบปัญหาอย่างหนักจากต้นทุนซัพพลายเออร์ที่เพิ่มสูงขึ้น ค่าธรรมเนียมสนามบินที่แพงขึ้น และการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดสายการบินต้นทุนต่ำของภูมิภาคเอเชีย โดยคาดว่าในปีงบประมาณนี้ จะขาดทุนสูงถึง 35 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 740 ล้านบาท)

นางวาเนสซา ฮัดสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแควนตัส กรุ๊ป กล่าวว่า ต้นทุนบางส่วนจากซัพพลายเออร์เพิ่มขึ้นมากถึง 200% ส่งผลให้โครงสร้างต้นทุนของบริษัทเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นเหตุผลหนึ่งที่ต้องเร่งปรับกลยุทธ์การดำเนินงาน

อย่างไรก็ดี ทางแควนตัส กรุ๊ป ยืนยันว่า การปิดตัวของเจ็ทสตาร์ เอเชีย ซึ่งให้บริการมากว่า 20 ปี จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของสายการบินเจ็ทสตาร์ แอร์เวย์ส (Jetstar Airways) ในออสเตรเลีย และเจ็ทสตาร์ เจแปน (Jetstar Japan)

ในช่วง 7 สัปดาห์ข้างหน้า สายการบินจะเริ่มทยอยลดเที่ยวบินลง และจะแจ้งให้ผู้โดยสารทราบหากเที่ยวบินของพวกเขาได้รับผลกระทบ ส่วนผู้โดยสารที่มีตั๋วเดินทางหลังวันที่ 31 กรกฎาคม จะได้รับการติดต่อจากสายการบินโดยตรง ซึ่งบางส่วนจะได้รับการย้ายไปยังเที่ยวบินอื่นในเครือแควนตัส กรุ๊ป (Qantas Group) ทั้งนี้ สายการบินแนะนำให้ผู้โดยสารที่จองตั๋วผ่านตัวแทนจำหน่าย หรือสายการบินอื่น ติดต่อผู้ให้บริการเหล่านั้นโดยตรง

การปิดตัวครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อเส้นทางบิน 16 เส้นทางทั่วเอเชีย รวมถึงเที่ยวบินจากสิงคโปร์ไปยังจุดหมายปลายทางในมาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

บริษัทระบุว่า การปิดกิจการของเจ็ทสตาร์ เอเชีย จะทำให้แควนตัส กรุ๊ป ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของออสเตรเลีย ได้รับเงินทุนกลับคืนมา 500 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1 หมื่นล้านบาท) ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับบริษัท โดยเงินทุนนี้จะถูกนำไปใช้ในแผนการปรับปรุงฝูงบิน ส่วนเครื่องบินแอร์บัส A320 จำนวน 13 ลำ ก็จะถูกนำกลับมาใช้ให้บริการในเส้นทางบินในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

การตัดสินใจครั้งนี้ส่งผลให้พนักงานราว 500 คน ต้องถูกเลิกจ้าง อย่างไรก็ตาม สายการบินยืนยันว่าพนักงานทุกคนจะได้รับเงินชดเชยตามกฎหมาย

คุณอาจสนใจ