รมว.ต่างประเทศกัมพูชา ส่งหนังสือถึง "มาริษ" ขอร่วมมือนำข้อพิพาทชายแดน 4 จุด ขึ้นศาลโลก

นายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชา ได้ยื่นหนังสือดังกล่าวถึงกระทรวงการต่างประเทศของไทย เมื่อวันศุกร์ (6 มิ.ย. 68) ที่ผ่านมา

โดยหนังสือดังกล่าวมีเนื้อหาว่า “ข้าพเจ้าได้เขียนหนังสือถึงท่านด้วยจิตวิญญาณแห่งมิตรภาพ และความมุ่งมั่นอย่างจริงจังต่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและปรองดองของสองชาติ

ดังที่ท่านทราบ ข้อพิพาทชายแดนที่ยืดเยื้อมาอย่างยาวนานระหว่างกัมพูชาและไทย ยังคงดำเนินมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ แม้จะมีความพยายามแก้ไขผ่านกลไกทวิภาคีมากมาย และความพยายามอันเปี่ยมไปด้วยไมตรีจิต แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ปัญหานี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขและยังคงเป็นบ่อเกิดแห่งความเข้าใจผิดและความตึงเครียดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้เกิดเหตุการณ์อันน่าสลดใจหลายครั้ง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ได้เกิดเหตุการณ์เผชิญหน้าที่รุนแรงขึ้นในหมู่บ้านเตโชมรกต ตำบลมรกต อำเภอจอมกะสัน จังหวัดพระวิหาร เมื่อกองกำลังของไทย ได้เปิดฉากยิงใส่ฐานที่ตั้งของกองทัพกัมพูชา ส่งผลให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย

เหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนและสันติ

เมื่อพิจารณาถึงความซับซ้อน, ประวัติศาสตร์, และความละเอียดอ่อนของข้อพิพาท จึงเห็นว่าการเจรจาเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่นำมาซึ่งการแก้ไขที่ครอบคลุมและยั่งยืนได้

ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลกัมพูชาเชื่อว่าหนทางที่เหมาะสมและสันติที่สุดในขณะนี้ คือ การยื่นเรื่องข้อพิพาทในพื้นที่มอมเบย, ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาเมือนโต๊ด, และปราสาทตาควาย ให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เป็นผู้พิจารณาตัดสิน

โดยคำตัดสินของ ICJ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ จะนำมาซึ่งข้อยุติที่เป็นธรรม ไม่ลำเอียง และยั่งยืน อีกทั้งยังจะสร้างความชัดเจนในเรื่องเขตแดนให้กับแต่ละประเทศ ที่สำคัญกว่านั้นคือ จะช่วยส่งเสริมบรรยากาศแห่งสันติภาพ เสถียรภาพ และความร่วมมือที่ยั่งยืนระหว่างสองประเทศ การดำเนินการดังกล่าวยังเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของสองประเทศในการยึดมั่นในหลักนิติธรรม การรักษาสันติสุขในภูมิภาค และการส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของประชาชนของเราในประชาคมอาเซียน

ด้วยเหตุผลข้างต้น ข้าพเจ้าจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยดำเนินการพิจารณาและให้ความร่วมมือกับรัฐบาลกัมพูชา ในการส่งเรื่องข้อพิพาทชายแดนไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ โดยใช้โอกาสนี้เพื่อยืนยันคำมั่นสัญญาร่วมกันในการเจรจาอย่างสันติ การแก้ไขปัญหาด้วยกฎหมาย และอนาคตแห่งการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน”

นายชุม เชือนรี โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศฯ กัมพูชา ยืนยันว่ารัฐบาลกัมพูชามีเจตนาดีและความมุ่งมั่นอันแรงกล้าในการแสวงหาแนวทางการแก้ไขอย่างสันติ และการรักษาแนวทางที่มั่นคงต่อปัญหาชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงประเทศไทย เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาจากกลุ่มบางกลุ่มในประเทศไทย