ออสเตรเลียประกาศขึ้นค่าแรง 3.5% ช่วยแรงงาน 2.6 ล้านคนสู้เงินเฟ้อ

ออสเตรเลียประกาศขึ้นค่าแรง 3.5% ช่วยแรงงาน 2.6 ล้านคนสู้เงินเฟ้อ มีผลบังคับใช้ 1 ก.ค.นี้ ทำให้ค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มขึ้นเป็น 24.94 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อชั่วโมง (ราว 524 บาท) พนักงานที่ทำงานเต็มเวลามีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 1,670 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 35,100 บาท)

คณะกรรมการพิจารณาค่าจ้างที่เป็นธรรม (FWC) ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระด้านการกำหนดค่าจ้างของออสเตรเลียได้ออกมาประกาศข่าวดีสำหรับแรงงานทั่วประเทศ โดยอนุมัติการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 3.5% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ถือเป็นข่าวดีอย่างมากสำหรับแรงงานที่ได้รับค้าจ้างขั้นต่ำประมาณ 2.6 ล้านคน ท่ามกลางสัญญาณบวกที่แรงกดดันจากปัญหาเงินเฟ้อเริ่มคลี่คลาย

FWC ระบุว่าการปรับค่าจ้างจะทำให้อัตราค่าจ้างขั้นต่ำของประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 24.94 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อชั่วโมง (ราว 524 บาท) ส่งผลให้พนักงานที่ทำงานเต็มเวลามีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 1,670 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 35,100 บาท)

การประกาศดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในไตรมาสแรกของปีนี้ทรงตัวอยู่ที่ 2.4% ซึ่งถือว่ายังอยู่ในกรอบเป้าหมาย 2-3% ของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) และลดลงจากจุดสูงสุดที่ 7.8% ในช่วงปลายปี 2565

นายอาดัม แฮทเชอร์ ประธาน FWC เน้นย้ำว่าการตัดสินใจนี้จะช่วยให้คนงานจำนวนมากมีรายได้เพิ่มขึ้น และชดเชยรายได้ที่แท้จริงที่หายไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น

ทั้งนี้ เมื่อปีที่แล้ว FWC เคยปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 3.75% แต่ตอนนั้น เป็นการปรับขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อ

ด้านสหภาพแรงงานออสเตรเลีย (ACTU) ได้ออกมาตอบรับประกาศดังกล่าวของ FWC และยกย่องการปรับขึ้นค่าจ้างครั้งนี้ว่าเป็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับลูกจ้างที่ได้รับค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งทาง ACTU ระบุว่าเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักสุดหลังอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

การปรับขึ้นค่าจ้างครั้งนี้นี้ยังเกิดขึ้นพร้อมกับสัญญาณบวกอื่นๆ เช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีของธนาคากลางออสเตรเลีย ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่งด้วยอัตราการว่างงานที่ทรงตัวอยู่ประมาณ 4.1%