"ฮุน เซน"เดือด ท้าขึ้นศาลโลกยุติปัญหา ยืนยันพื้นที่ "สามเหลี่ยมมรกต" เป็นดินแดนของกัมพูชา

เมื่อคืนที่ผ่านมา สมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของตัวเอง ระบุว่า “กลุ่มหัวรุนแรงชาวไทยบางคนได้เข้ามาโพสต์ข้อความดูหมิ่นและแสดงความคิดเห็นที่ไม่เหมาะสมในหน้า Facebook ของฉัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐบาล รวมทั้งประชาชนของทั้งกัมพูชาและไทย อีกทั้งยังเพื่อปลุกปั่นความตึงเครียดที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งทางทหารระหว่างทั้ง 2 ประเทศ


ซึ่งชาวไทยบางคนเรียกร้องให้กัมพูชาถอนทหารออกจากพื้นที่ที่กองกำลังกัมพูชายึดครองอยู่ในปัจจุบัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ฉันต้องการชี้แจงสามประเด็นดังต่อไปนี้:


1. พื้นที่สามเหลี่ยมมรกตนี้เป็นดินแดนของกัมพูชา และทหารกัมพูชาประจำการอยู่ที่นั่นมาตั้งแต่ก่อนข้อตกลงสันติภาพปารีส (Paris Peace Accords ปี 2516) ซึ่งประมาณ 13 หรือ 14 ปีก่อนบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 UNTAC ซึ่งอาจทำหน้าที่เป็นพยานได้

หากยังไม่ชัดเจน กัมพูชาและไทยอาจตกลงกันนำเรื่องนี้เข้าสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในกรุงเฮก โดยใช้แผนที่อย่างเป็นทางการที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ (ไม่ใช่แผนที่ที่วาดขึ้นเองเพื่ออ้างสิทธิ์ในดินแดน) เพื่อยุติเรื่องนี้ด้วยยุทธศาสตร์ "ไม่ใช่การนั่งเฉย ๆ เพื่อดับควัน แต่เพื่อดับไฟให้หมดสิ้น" รวมทั้งเพื่อความสุขและความสามัคคีของคนรุ่นต่อไป และไม่ให้สิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นอีก


2. ภาพถ่ายหลายภาพของฉัน ภรรยา และเพื่อนร่วมงานที่ไปเยี่ยมชมพื้นที่ดังกล่าวเมื่อกว่า 15 ปีที่แล้ว พิสูจน์ได้ชัดเจนว่านี่คือดินแดนของกัมพูชา ไม่มีทางเลยที่ฉันจะสวมเครื่องแบบทหารและถ่ายรูปดินแดนของไทยหรือลาวในพื้นที่นั้นได้ ในเวลานั้น ฉันกำลังต้อนรับทหารลาวที่ห้องพิธีการที่นั่น (ซึ่งถูกเผาไปเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา)


3. กัมพูชาไม่สามารถถอนทหารออกจากดินแดนของตนเองได้เพียงเพราะไทยเรียกร้อง อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยใช้กลวิธีเดียวกันนี้ โดยเขาบอกกับผมต่อหน้าประธานาธิบดีอินโดนีเซียในปี 2554 ว่าทั้ง 2 ฝ่ายควรถอนทหารออกจากพื้นที่ปราสาทพระวิหาร


ผมบอกนายอภิสิทธิ์อย่างชัดเจนว่า ผมไม่สามารถถอนทหารกัมพูชาออกจากดินแดนของเราได้ และเขาควรถอนทหารที่รุกรานออกไปโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่สามเหลี่ยมมรกตเมื่อ 3 วันก่อนเป็นเพียงเหตุการณ์ซ้ำ ๆ ของแผนการยึดครองดินแดนกัมพูชาที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขับเคลื่อนโดยผู้บังคับบัญชาระดับล่างและได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มหัวรุนแรงของไทย


และล่าสุด ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กที่มี IP ประเทศไทย ไม่สามารถมองเห็นบัญชีเฟซบุ๊ก “samdech hun sen of cambodia” ได้