สหรัฐฯประกาศดีลข้อตกลงการค้ากับอังกฤษ เป็นประเทศแรก นักวิเคราะห์ชี้ประเทศอื่นเลียนแบบได้ยาก

สหรัฐฯ ประกาศดีลข้อตกลงการค้ากับอังกฤษเป็นประเทศแรก นักวิเคราะห์ชี้ประเทศอื่นเลียนแบบได้ยาก เพราะอังกฤษขาดดุลสหรัฐฯ มหาศาล

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สหรัฐประกาศข้อตกลงการค้ากับอังกฤษเป็นประเทศแรก  ที่สหรัฐ  ทำกับประเทศที่สินค้าที่นำเข้าต้องเสียภาษีศุลกากรใหม่ตามที่ทรัมป์กำหนดเมื่อต้นเดือนเมษายน ซึ่งที่ผ่านมานั้นสหรัฐ ได้ดุลการค้ากับสหราชอาณาจักรเป็นมูลค่ามหาศาลมาโดยตลาด

ทั้งนี้ รายละเอียดหลายอย่างเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าวยังไม่ชัดเจนในทันที และไม่มีการลงนามใดๆ ในงานที่ทำเนียบขาว โดยทรัมป์กล่าวว่า “รายละเอียดขั้นสุดท้ายกำลังอยู่ในขั้นตอนการเขียน” “ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เราจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน”

ทรัมป์ กล่าวว่าข้อตกลงดังกล่าวรวมถึง “การเพิ่มการเข้าถึงตลาดสำหรับสินค้าส่งออกของสหรัฐ  มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์” และสหราชอาณาจักรจะ “ลดหรือขจัดอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากรมากมายที่กีดกันสินค้าของสหรัฐฯ อย่างไม่เป็นธรรม”

ทั้งนี้ ในเอกสารข้อเท็จจริงจากทำเนียบขาวระบุว่า  สหรัฐจะคงภาษีศุลกากร ไว้ที่ 10% สำหรับสินค้านำเข้าของอังกฤษ ปรับอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ของสหราชอาณาจักร โดยรถยนต์ 100,000 คันแรกที่นำเข้าจากผู้ผลิตรถยนต์ของสหราชอาณาจักรในแต่ละปีจะต้องเสียภาษีนำเข้า 10% และรถยนต์คันอื่นๆ จะต้องเสียภาษีนำเข้า 25%  สร้าง "โอกาสมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์สำหรับการส่งออกสินค้าใหม่" ให้กับเกษตรกร ผู้เลี้ยงสัตว์ และผู้ผลิตในสหรัฐฯ รวมถึงการส่งออกเอธานอลมูลค่ากว่า 700 ล้านดอลลาร์ และการส่งออกเนื้อวัวและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่นๆ มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ของสหรัฐฯ

ทั้งสองประเทศยังจะให้คำมั่นว่า จะทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มการเข้าถึงตลาดอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม  ปิดช่องโหว่และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในสหรัฐ ในตลาดจัดซื้อจัดจ้างของสหราชอาณาจักร

ปรับปรุงขั้นตอนศุลกากรสำหรับการส่งออกของสหรัฐฯ สร้างพันธกรณีต่อทรัพย์สินทางปัญญา แรงงาน และสิ่งแวดล้อม สร้างความมั่นคงให้กับห่วงโซ่อุปทานของผู้ผลิตอากาศยานในสหรัฐ ด้วยการเข้าถึงส่วนประกอบอากาศยานคุณภาพสูงของสหราชอาณาจักรได้อย่างมีสิทธิพิเศษ

ทางด้าน นายกรัฐมนตรี คีร์ สตาร์เมอร์  แห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งเข้าร่วมกับทรัมป์จากระยะไกล กล่าวว่า “เราได้สร้างแพลตฟอร์มที่น่าทึ่งสำหรับอนาคต”

แต่กระนั้น ผู้เชี่ยวชาญบางคนลดความสำคัญของผลกระทบของข้อตกลงดังกล่าว โดยกล่าวว่าเส้นทางที่สหรัฐ  ดำเนินการกับสหราชอาณาจักรนั้นไม่สามารถเกิดขึ้นซ้ำได้ง่าย ๆ กับประเทศอื่น ๆ ที่สหรัฐมีการขาดดุลการค้าจำนวนมาก อย่างเช่น จอช ลิปสกี  ประธานด้านเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศของสภาธุรกิตแอตแลนติคให้ความเห็นว่า  “มันเป็นชัยชนะเพียงเล็กน้อยและมีขอบเขตจำกัด”

ขณะเดียวกัน ต่อกรณีกับจีนนั้น ประธานาธิบดี  ทรัมป์ กล่าว ว่าเขาคาดหวังว่าจะมีการเจรจาการค้าอย่างเป็นสาระสำคัญระหว่างสหรัฐฯ และจีนในสุดสัปดาห์นี้ และกล่าวว่าภาษีศุลกากรจะไม่สามารถสูงเกินไปกว่า 145%  

ทรัมป์กล่าวว่า “คุณไม่สามารถสูงขึ้นไปกว่านี้ได้แล้ว มันอยู่ที่ 145 % ดังนั้นเรารู้ว่ามันกำลังลดลง”  “ผมคิดว่านี่เป็นการพบปะกันที่เป็นมิตรมาก พวกเขาตั้งตารอที่จะทำมันอย่างสง่างาม”



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/wtNnsEylHsk