“ทรัมป์” สั่งเปิดเรือนจำกลางทะเล “อัลคาทราซ” อีกครั้ง เพื่อใช้คุมขังอาชญากรที่รุนแรงที่สุดของสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอเมริกาสร้างความฮือฮาอีกครั้งด้วยการออกคำสั่งให้กรมราชทัณฑ์ (BOP) เดินหน้าบูรณะและเปิด “อัลคาทราซ” เรือนจำกลางทะเลอันเลื่องชื่อในอ่าวซานฟรานซิสโกอีกครั้ง


ประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์มทรูธโซเชียลว่า เขาได้สั่งการให้กรมราชทัณฑ์, กระทรวงยุติธรรม, เอฟบีไอ, และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิเปิดเรือนจำแห่งนี้อีกครั้ง โดยให้เหตุผลว่าเพื่อใช้คุมขังอาชญากรที่โหดเหี้ยมและรุนแรงที่สุดของอเมริกา


นอกจากนี้ ทรัมป์ยังบอกว่า ในอดีต สหรัฐอเมริกาไม่เคยลังเลที่จะจับกุมอาชญากรที่อันตรายที่สุดและกักกันพวกเขาให้ห่างไกลจากผู้คนเลย และกล่าวเสริมว่าเป็นเวลานานเกินไปแล้วที่อเมริกาต้องเผชิญกับอาชญากรรมที่โหดร้าย รุนแรง และการทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า


ต่อมา ทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้กับผู้สื่อข่าวหลังเดินทางกลับถึงทำเนียบขาวว่า การสั่งเปิดคุกอัลคาทราซเป็นไอเดียที่เขาเพิ่งจะคิดได้ จึงตัดสินใจทำทันที โดยให้เหตุผลว่าสถานที่แห่งนี้คือสัญลักษณ์ของกฎหมายและความสงบเรียบร้อย


อัลคาทราซ หรือที่รู้จักกันในนามว่า “เดอะ ร็อค” เคยเป็นสถานที่คุมขังอาชญากรระดับตำนานอย่าง อัล คาโปน เจ้าพ่อมาเฟียชื่อดัง ก่อนจะปิดตัวลงในปี 2506 และกลายสภาพเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของซานฟรานซิสโกในปัจจุบัน ดึงดูดผู้คนนับล้านให้มาเยี่ยมชมและสัมผัสประสบการณ์อันน่าสะพรึงกลัว


สถานที่แห่งนี้ยังขึ้นเรื่องความโหด ด้วยทำเลที่ตั้งบนเกาะห่างไกล ล้อมรอบด้วยกระแสน้ำเชี่ยวและเย็นยะเยือก ทำให้การหลบหนีแทบเป็นไปไม่ได้ แม้จะไม่มีบันทึกการแหกคุกสำเร็จอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีนักโทษ 5 รายที่ถูกบันทึกสถานะว่า “หายสาบสูญและสันนิษฐานว่าจมน้ำเสียชีวิต”


ทั้งนี้ อุปสรรคสำคัญที่ทำให้อัลคาทราซต้องปิดตัวไปคือค่าใช้จ่าย โดยข้อมูลจาก BOP ระบุว่าเรือนจำแห่งนี้ใช้งบประมาณในการดำเนินงานสูงกว่าเรือนจำกลางอื่น ๆ เกือบ 3 เท่า สาเหตุหลักมาจากความยากลำบากในการขนส่งเสบียงและบุคลากรไปยังเกาะ


อย่างไรก็ดี แผนการดังกล่าวของทรัมป์ถูกต่อต้านอย่างหนักจากฝั่งตรงข้าม นางแนนซี เพโลซี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต ได้เขียนข้อความลงบนแอปพลิเคชัน X ว่า อัลคาทราซปิดทำการในฐานะเรือนจำกลางไปแล้วกว่า 60 ปี และตอนนี้ก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ดังนั้น ข้อเสนอของประธานาธิบดีจึงไม่ใช่เรื่องจริงจัง


ข้อเสนอดังกล่าวของทรัมป์ยังเกิดขึ้นในขณะที่เขามีเรื่องขัดแย้งกับศาลเกี่ยวกับนโยบายส่งผู้ต้องสงสัยที่เป็นสมาชิกแก๊งอาชญากรรมไปยังเรือนจำในเอลซัลวาดอร์ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เขาส่งสมาชิกแก๊งอาชญากรรมชาวเวเนซุเอลาไปยังเรือนจำดังกล่าวมากกว่า 200 คน นอกจากนี้ ยังบอกว่าจะส่งอาชญากรในอเมริกาไปยังเรือนจำต่างประเทศด้วย