กลุ่มมือปืนกราดยิงใส่นักท่องเที่ยวที่แคชเมียร์ เสียชีวิต 26 ราย

เกิดเหตุกลุ่มติดอาวุธกราดยิงใส่นักท่องเที่ยวที่แคว้นจัมมูและแคชเมียร์ของอินเดีย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 26 คน และบาดเจ็บ 17 คน นับเป็นเหตุโจมตีที่เลวร้ายที่สุดในรอบเกือบสองทศวรรษ

การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (22 เม.ย. 68) ที่เมืองปาฮาลกัมซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีทัศนียภาพของเทือกเขาหิมาลัยที่สวยงาม เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องถิ่นระบุว่า เหตุโจมตีเกิดขึ้นบริเวณทุ่งหญ้านอกเส้นทางหลัก และผู้เสียชีวิตประกอบด้วยชาวอินเดีย 25 คน และชาวเนปาลอีก 1 คน ถือเป็นเหตุโจมตีพลเรือนที่เลวร้ายที่สุดในอินเดียนับตั้งแต่เหตุกราดยิงมุมไบเมื่อปี 2551 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 160 คน

กลุ่มก่อการร้ายที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ชื่อ “แนวร่วมต่อต้านแคชเมียร์ (Kashmir Resistance)” ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตี โดยให้เหตุผลว่าเป็นการแสดงความไม่พอใจที่ “คนนอก” กว่า 85,000 คนเข้ามาตั้งถิ่นฐานในดินแดนแห่งนี้ซึ่งก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางประชากร

ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว องค์กรในพื้นที่มากกว่าสิบแห่งได้เรียกร้องให้รัฐบาลอินเดียสั่งปิดหน่วยงานในพื้นที่เพื่อประท้วงการโจมตีนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน โรงเรียนหลายแห่งก็ประกาศหยุดเรียนชั่วคราว

สายการบินต่าง ๆ ได้เพิ่มเที่ยวบินออกจากเมืองศรีนาการ์ หรือ ศรีนคร เนื่องจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากต้องการเดินทางออกจากพื้นที่

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีตัดสินใจยุติการเยือนซาอุดิอาระเบียก่อนกำหนดและเดินทางกลับกรุงนิวเดลีทันทีเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (23 เม.ย. 68) ขณะที่กระทรวงการคลังก็ระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นิรมาลา สิตารามัน ก็กำลังยุติการเยือนสหรัฐอเมริกาและเปรูก่อนกำหนดเช่นกันเพื่ออยู่เคียงข้างประชาชนในช่วงเวลาที่ยากลำบากและน่าเศร้านี้

ดินแดนดังกล่าวเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบและความขัดแย้งมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ปี 2532 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วหลายหมื่นคน เนื่องจากอินเดียและปากีสถานต่างก็อ้างกรรมสิทธิ์การปกครอง แม้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความรุนแรงจะลดน้อยลงแล้วก็ตาม

ในปี 2562 อินเดียได้เพิกถอนสถานะพิเศษของแคชเมียร์ โดยแบ่งรัฐออกเป็นสองดินแดนที่บริหารโดยรัฐบาลกลาง คือ จัมมูและแคชเมียร์ และลาดักห์ ซึ่งทำให้ทางการท้องถิ่นสามารถออกสิทธิ์ในการมีถิ่นที่อยู่ให้กับคนนอกพื้นที่ได้ทำให้พวกเขาสามารถหางานทำและซื้อที่ดินในดินแดนแห่งนี้ได้ สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมากให้กับปากีสถาน ทำให้ความสัมพันธ์ของสองประเทศตกต่ำลง