'ทรัมป์' ประกาศเก็บภาษีนำเข้าโหด ตอบโต้ประเทศคู่ค้าทั่วโลก ไทยโดนหนัก 36%

เมื่อเวลา 16.00 น. ตามเวลาในภาคตะวันออกของสหรัฐฯ หรือประมาณ 03.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แถลงต่อผู้สื่อข่าวที่ สวน โรส การ์เดน ในทำเนียบขาว ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าทุกประเภทที่เข้ามายังสหรัฐ 10% และจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าอีกหลายสิบประเทศ รวมถึงคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ บางรายในอัตราที่สูงกว่า ทำให้สงครามการค้าโลกรุนแรงขึ้น  


ทรัมป์ ได้ชูกระดานแสดงอัตราภาษีใหม่ที่เรียกเก็บจากประเทศต่าง ๆ ส่วนใหญ่ อัตราภาษีจะอยู่ระหว่าง 10% ถึง 49% ซึ่งปรากฏว่ามีชื่อของประเทศไทย ซึ่งจะโดนเรียกเก็บที่ 36% ซึ่งในตารางดังกล่าวระบุชัดว่า ไทยเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯถึง 72% ทีเดียว โดยสหรัฐฯจะตอบโต้ด้วยภาษี 36%


ขณะที่การนำเข้าสินค้าจากจีนจะถูกขึ้นภาษี 34% นอกเหนือจากภาษี 20% ที่เขาเคยเรียกเก็บจากจีนมาแล้วก่อนหน้านี้ ขณะที่พันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐฯ ก็ไม่รอดเช่นกัน รวมถึงสหภาพยุโรป ซึ่งเผชิญกับภาษีศุลกากร 20% ส่วนประเทศอื่น ๆ ในเอเชียนั้น ก็มีเวียดนาม ถูกเรียกเก็บ 46% มาเลเซีย 24% กัมพูชา 49% และเกาหลีใต้ 25% เป็นต้น


ทรัมป์ ยังได้กล่าวถึงการขึ้นภาษีประเทศต่าง ๆ รายประเทศ แต่ไม่ได้กล่าวถึงประเทศไทยโดยเฉพาะ


ทั้งนี้ ภาษีนำเข้าดังกล่าวจะสร้างอุปสรรคใหม่ให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลก และจะพลิกโฉมการเปิดเสรีทางการค้าที่ดำเนินมาหลายทศวรรษที่หล่อหลอมระเบียบเศรษฐกิจโลก และคาดว่าประเทศคู่ค้าจะตอบโต้ด้วยมาตรการเช่นเดียวกันนี้ และอาจส่งผลให้ราคาสินค้าทุกชนิดตั้งแต่จักรยานไปจนถึงไวน์สูงขึ้นอย่างมาก


ทรัมป์ กล่าวว่า นี่คือการประกาศอิสรภาพของเรา ภาษีศุลกากรจะไม่เป็นแบบตอบโต้ เต็มรูปแบบ ใช่แล้ว ผมทำได้ แต่ก็คงยากสำหรับหลายประเทศ เราเองก็ไม่อยากทำเช่นนั้น  


ทรัมป์ กล่าวว่า "นี่เป็นการตอบโต้ นั่นหมายความว่าพวกเขาทำกับเรา และเราก็ทำกับพวกเขา" "ง่ายมาก ไม่มีอะไรจะง่ายไปกว่านี้อีกแล้ว"


ทั้งนี้ ทรัมป์ประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจระดับประเทศเพื่อกำหนดมาตรการภาษี ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้หลายร้อยพันล้านดอลลาร์ต่อปี เขาสัญญาว่าการจ้างงานในโรงงานต่าง ๆ จะหวนกลับคืนสู่สหรัฐฯ อันเป็นผลจากการขึ้นภาษีนำเข้าครั้งนี้


แต่กระนั้นการดำเนินการตามนโยบายของเขามีความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวอย่างกะทันหัน เนื่องจากผู้บริโภคและธุรกิจอาจต้องเผชิญกับการขึ้นราคาสินค้ารถยนต์ เสื้อผ้า และสินค้าอื่น ๆ อย่างรุนแรง


ทรัมป์ ยังกล่าวในคำปราศรัยที่ทำเนียบขาวว่า “ผู้เสียภาษีถูกเอาเปรียบมานานกว่า 50 ปีแล้ว แต่มันจะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป”


ทั้งนี้ ทรัมป์กำลังทำตามสัญญาที่หาเสียงไว้ โดยกำหนดมาตรการภาษีที่เรียกว่า ภาษีตอบโต้ กับคู่ค้า โดยดำเนินการโดยไม่ต้องผ่านรัฐสภาผ่านพระราชบัญญัติอำนาจฉุกเฉินระหว่างประเทศปี 1977 ซึ่งเป็นความพยายามพิเศษที่จะทำลายและปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับโลกในที่สุด

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/bqhcJS8xrJY