“เซเลนสกี” ยื่นข้อเสนอลาออกประธานาธิบดี แลก “ยูเครน” เข้าเป็นสมาชิกของนาโต

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ประกาศว่าเขาจะยอมลาออกจากตำแหน่ง หากยูเครนได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของนาโต หลังถูก “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ โจมตีกล่าวหาเป็นเผด็จการ

เมื่อวานนี้ (23 ก.พ. 68) ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวในงานแถลงข่าวที่กรุงเคียฟว่า หากมีสันติภาพเกิดขึ้นในยูเครนและผู้คนต้องการให้เขาลาออกจากตำแหน่งจริง ๆ เขาก็พร้อม หลังจากผู้สื่อข่าวได้ถามเขาว่าเขาจะลาออกหรือไม่ถ้าหากการทำแบบนั้นจะก่อให้เกิดสันติภาพ

ผู้นำยูเครนยังบอกอีกว่าเขาสามารถแลกตำแหน่งกับการเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโตได้ทันทีหากมีเงื่อนไขนั้น

คำพูดนี้มีขึ้นหลังเซเลนสกีถูกโจมตีอย่างหนักจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เรียกร้องให้ยูเครนจัดการเลือกตั้งใหม่ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังตราหน้าประธานาธิบดีเซเลนสกีว่าเป็น “เผด็จการ” ด้วย ซึ่งรายงานระบุว่าทรัมป์น่าจะสื่อถึงการดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวาระ 5 ปีของเซเลนสกีได้สิ้นสุดลงแล้วตั้งแต่ปี 2567 และทรัมป์ยังพูดเท็จอีกว่าเซเลนสกีมีคะแนนนิยมอยู่ที่ 4% แถมยังกล่าวหายูเครนว่าเป็นฝ่ายเริ่มทำสงครามอีก

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยูเครนประกาศว่ายังไม่สามารถจัดการเลือกตั้งใหม่ได้เนื่องจากตอนนี้ประเทศยังคงประกาศใช้กฎอัยการศึก

ประธานาธิบดีเซเลนสกีได้กล่าวถึงประธานาธิบวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียด้วย โดยบอกว่าเขาไม่คิดที่จะครองอำนาจต่อไปเป็นสิบ ๆ ปีหรอก แต่เขาก็จะไม่ยอมให้ปูตินเข้ามีอำนาจในดินแดนของยูเครนเหมือนกัน

ขณะเดียวกัน ยังพูดถึงทรัมป์ โดยบอกว่าเขาไม่ได้รู้สึกขุ่นเคืองใจเลยกับคำพูดของทรัมป์ และพร้อมที่จะทดสอบความนิยมของเขาในการเลือกตั้งเมื่อกฎอัยการศึกสิ้นสุดลง

เซเลนสกีย้ำว่า คน ๆ หนึ่งจะรู้สึกไม่พอใจกับคำว่า “เผด็จการ” หากเขาคนนั้นเป็นเผด็จการจริง ๆ นอกจากนี้ ยังบอกว่าเขาต้องการพบปะหารือกับประธานาธิบดีทรัมป์ ก่อนที่ทรัมป์จะพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย เพื่อบอกความคืบหน้าเกี่ยวกับการทำข้อตกลงที่จะให้สหรัฐฯ เขาถึงทรัพยากรที่สำคัญของยูเครน

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ออกมาเสนอให้ยูเครนแบ่งแร่ธาตุที่หายากในประเทศ 50% เช่น แกรไฟต์ ยูเรเนียม ไทเทเนียม และลิเทียม ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ให้กับสหรัฐฯเพื่อชดเชยความช่วยเหลือที่ได้รับจากรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นมูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีเซเลนสกีได้ปฏิเสธข้อเสนอนี้ และบอกว่าเขาจะยอมทำข้อตกลงก็ต่อเมื่อสหรัฐฯ รับประกันความปลอดภัยให้กับยูเครนเป็นการตอบแทน และว่ายูเครนต้องไม่เป็นหนี้ใครสำหรับความช่วยเหลือในอดีต เขาจะไม่ลงนามในข้อตกลงที่จะทำให้ชาวยูเครนต้องชดใช้ถึง 10 ชั่วอายุคน