ต่างประเทศ
“ทรัมป์” ประกาศต้องการยึดครองฉนวนกาซา พร้อมแนะชาวปาเลสไตน์ให้ย้ายไปอยู่ที่อื่น
โดย JitrarutP
5 ก.พ. 2568
389 views
ขู่หรือเอาจริง? ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ของสหรัฐอเมริกา สร้างความตกตะลึงให้กับทั่วโลกอีกครั้ง หลังประกาศว่าสหรัฐฯ ต้องการยึดครองฉนวนกาซา ระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับ นายกฯ ของอิสราเอล แนะชาวปาเลสไตน์ให้ย้ายไปอยู่ที่อื่น เผยเตรียมพัฒนาให้กลายเป็น “ริเวียร่าแห่งตะวันออกกลาง”
ประธานาธิบดีทรัมป์แนะนำให้ชาวปาเลสไตน์ทุกคนให้ย้ายออกจากดินแดนแห่งนี้ และไปตั้งถิ่นฐานอยู่ในประเทศอื่นในตะวันออกกลาง เช่น จอร์แดนและอียิปต์ เพื่อให้สหรัฐฯ เข้าไปฟื้นฟูดินแดนที่ถูกทำลายล้างจากสงคราม นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังกล่าวระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลที่ทำเนียบขาวว่า ตอนนี้ กาซากำลังเป็นขุมนรก เขาจะดำเนินการกำจัดระเบิดที่ยังไม่ทำงานทั้งหมด ปรับระดับพื้นที่ และขจัดซากปรักหักพังของสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ปรับปรุงพื้นที่ และพัฒนาดินแดนแห่งนี้ให้กลายเป็น “ริเวียร่าแห่งตะวันออกกลาง”
ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่าเขาจะพัฒนากาซา และสร้างงานหลายพันหลายหมื่นตำแหน่ง และมันจะเป็นสิ่งที่คนตะวันออกกลางทั้งหมดรู้สึกภูมิใจ และเขามองว่าการครองฉนวนกาซาของสหรัฐฯ จะเป็นไปในระยะยาว และจะทำให้ภูมิภาคตะวันออกกลางมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
นักข่าวได้ถามทรัมป์ว่าใครจะเป็นผู้อาศัยอยู่ในดินแดนแห่งนี้ ทรัมป์บอกว่าที่นั่นอาจจะกลายเป็นบ้านของ “คนทั้งโลก” อย่างไรก็ดี ทรัมป์ไม่ได้บอกว่าสหรัฐฯ จะเข้าไปยึดครองดินแดนแห่งนี้ได้อย่างไร
ทั้งนี้ ฉนวนกาซาเป็นพื้นที่ริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมีความยาวทั้งหมด 45 กิโลเมตร และกว้างสุด 10 กิโลเมตร ปัจจุบันมีคนอาศัยอยู่ประมาณ 2 ล้านคน
ทางด้านนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูของอิสราเอลกล่าว หลังถูกถามเกี่ยวกับการที่สหรัฐฯ จะเข้ายึดฉนวนกาซาว่า เขาคิดว่าการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้เลย และมันคงคุ้มค่าที่จะลอง อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอของทรัมป์ที่ระบุว่า สหรัฐฯ ควรเข้ายึดครองฉนวนกาซาเป็นเรื่องใหม่สำหรับเขาเช่นกัน
ด้านนักวิเคราะห์บางคนมองว่า ทรัมป์กำลังพยายามใช้จุดยืนที่แข็งกร้าวเช่นนี้เป็นการกำหนดกรอบสำหรับการเจรจาในอนาคต เห็นได้จากตอนที่ดำรงตำแหน่งในวาระแรก ทรัมป์เคยออกนโยบายสุดโต่งและเกินขอบเขตหลายนโยบาย แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกนำมาปฏิบัติจริง
ขณะที่การประเมินความเสียหายของสหประชาชาติที่ถูกเผยแพร่ออกมาในเดือนมกราคม การกำจัดเศษซากปรักหักพังที่มีน้ำหนักมากกว่า 50 ล้านตันในฉนวนกาซาหลังถูกอิสราเอลถล่มอาจใช้เวลานานถึง 21 ปี และมีต้นทุนสูงถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 40,000 ล้านบาท)
ล่าสุด นายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบาเนซี ของออสเตรเลียได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อแถลงการณ์ดังกล่าวของทรัมป์ โดยยืนยันว่าออสเตรเลียยังคงสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกลางด้วยแนวทางสองรัฐ (two-state solution) ซึ่งเป็นจุดยืนเดิมของออสเตรเลียที่มีมาเป็นสิบปี
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เรียกร้องให้จอร์แดน อียิปต์ และชาติอาหรับอื่น ๆ รับชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาปาอศัยอยู่ในประเทศของพวกเขา และว่าชาวปาเลสไตน์ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องละทิ้งดินแดนแห่งนี้ เพราะจะต้องมีการฟื้นฟูและสร้างขึ้นมาใหม่หลังจากสงครามอันเลวร้ายที่กินระยะเวลายาวนานเกือบ 16 เดือน
แนวคิดดังกล่าวของทรัมป์ถูกต่อต้านและคัดค้านอย่างหนักจากผู้นำชาติอาหรับเนื่องจากการบังคับให้ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาต้องอพยพออกไปจากดินแดนของพวกเขาอาจถือว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และจะถูกต่อต้านอย่างรุนแรงไม่เพียงแต่ในภูมิภาคตะวันออกกลางเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพันธมิตรชาติของสหรัฐฯ ด้วย ขณะที่นักสิทธิมนุษยชนบางคนเปรียบเทียบแนวคิดดังกล่าวของทรัมป์ว่าเป็นการกวาดล้างทางชาติพันธุ์
ด้านซาอุดิอาระเบียออกแถลงการณ์เน้นย้ำจุดยืนว่ารัฐบาลซาอุดิอาระเบียไม่ยอมรับ ความพยายามใด ๆ ก็ตามในการย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ออกจากดินแดนของพวกเขา และเสริมว่าจุดยืนของซาอุดิอาระเบียต่อชาวปาเลสไตน์นั้นไม่สามารถต่อรองได้ นอกจากนี้ รัฐบาลซาอุฯ ยังบอกว่าจะไม่สถาปนาความสัมพันธ์กับอิสราเอลหากไม่มีการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์
ทั้งนี้ สหรัฐฯ พยายามดำเนินการทางการทูตเป็นเวลานานหลายเดือนเพื่อให้ซาอุดิอาระเบียฟื้นฟูความสัมพันธ์กับอิสราเอลและยอมรับประเทศนี้ จนกระทั่งเกิดสงครามในฉนวนกาซา ทำให้ซาอุฯ ระงับความพยายามดังกล่าวไว้ก่อน เนื่องจากชาวอาหรับโกรธแค้นต่อการรุกรานของอิสราเอล
แท็กที่เกี่ยวข้อง ทรัมป์ ,ฉนวนกาซา ,ข่าวต่างประเทศ ,ปาเลสไตน์