พบผู้ป่วยไข้หวัดนกชนิดรุนแรงครั้งแรกในสหรัฐฯ “แคลิฟอร์เนีย”ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว

สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (CDC) รายงานกรณีไข้หวัดนกรุนแรงครั้งแรกในประเทศ โดยเป็นชาวลุยเซียนารายหนึ่งที่กำลังเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในอาการวิกฤต หลังจากสงสัยว่าสัมผัสกับฝูงนกที่ติดเชื้อในสวนหลังบ้าน


โดยแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุด ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านไวรัส H5N1 แล้ว เนื่องจากไวรัสดังกล่าวแพร่ระบาดในวงกว้างมากขึ้นในฝูงสัตว์นม และทำให้คนงานในฟาร์มหลายสิบคนติดเชื้อในปีนี้


ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางและรัฐล้มเหลวในการควบคุมการระบาดของประเทศ ทำให้วัวนมติดเชื้อเป็นครั้งแรกในปี 2567 เนื่องจากเกษตรกรบางรายต่อต้านการทดสอบและมาตรการควบคุม


โดยโรคทางเดินหายใจรุนแรงในผู้ป่วยลุยเซียนาแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับผู้คนจากไวรัสที่เคยทำให้ตาแดงหรือเยื่อบุตาอักเสบในคนงานผลิตนม ที่ติดเชื้อ ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าไข้หวัดนกยังคงถือเป็นความเสี่ยงต่ำต่อประชาชนทั่วไป


ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) ยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวแล้ว 61 รายทั่วประเทศตั้งแต่เดือนเมษายน โดยส่วนใหญ่เป็นคนงานในฟาร์มโคนมที่เชื้อไวรัสแพร่ระบาดไปยังวัว นอกจากนี้ คนงานที่ต้องกำจัดสัตว์ปีกที่ติดเชื้อก็มีผลตรวจเชื้อเป็นบวกด้วยเช่นกัน


กระทรวงสาธารณสุขของรัฐลุยเซียนาออกแถลงการณ์ว่า ผู้ป่วยรายนี้มีอาการป่วยทางระบบทางเดินหายใจรุนแรง โดยระบุว่าผู้ป่วยรายนี้มีโรคประจำตัวและมีอายุมากกว่า 65 ปี ซึ่งทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงสูง


ด้าน Demetre Daskalakis ผู้อำนวยการศูนย์การสร้างภูมิคุ้มกันและโรคทางเดินหายใจแห่งชาติของ CDC กล่าวระหว่างสนทนากับผู้สื่อข่าวว่า กรณีนี้ถือเป็นกรณีแรกที่มีความเชื่อมโยงกับไก่ที่เลี้ยงในบ้านและไม่ได้เลี้ยงในเชิงพาณิชย์


การที่ผู้ป่วยไข้หวัดนก H5N1 มีอาการป่วยรุนแรงเป็นครั้งคราวไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ เนื่องจากกรณีดังกล่าวเคยเกิดขึ้นในประเทศอื่น ๆ มาแล้วในปี 2567 และปีก่อน ๆ รวมถึงกรณีที่ทำให้เสียชีวิตด้วย


“กรณีไม่รุนแรงที่เราพบในสหรัฐอเมริกา สะท้อนให้เห็นว่าบุคคลจำนวนมากติดเชื้อจากวัวนม ซึ่งแตกต่างอย่างมากในการติดเชื้อจากนกที่ติดเชื้อ” Amesh Adalja นักวิชาการอาวุโสที่ Johns Hopkins Center for Health Security กล่าว


CDC ระบุว่าข้อมูลจีโนมไวรัสบางส่วนจากผู้ป่วยที่ติดเชื้อแสดงให้เห็นว่าไวรัสดังกล่าวจัดอยู่ในจีโนไทป์ D1.1 ซึ่งตรวจพบเมื่อไม่นานนี้ในนกป่าและสัตว์ปีกในสหรัฐอเมริกา และในผู้ป่วยมนุษย์ล่าสุดในบริติชโคลัมเบีย แคนาดา และรัฐวอชิงตัน ซึ่งจีโนไทป์ของไวรัสนี้แตกต่างจากจีโนไทป์ B3.13 ที่ตรวจพบในวัวนม มนุษย์ในหลายรัฐ และการระบาดในสัตว์ปีกบางส่วนในประเทศ