ต่างประเทศ

รัสเซียย้ำเดินหน้าทดสอบขีปนาวุธในสนามรบต่อไป

โดย kanyapak_w

3 ชั่วโมงที่แล้ว

118 views

สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนทวีความตึงเครียดถึงขีดสุดในช่วงสัปดาห์นี้ ล่าสุดผู้นำรัสเซียประกาศเดินหน้าทดสอบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงในสนามรบต่อไป พร้อมกับย้ำว่า ศัตรูไม่สามารถยิงสกัดขีปนาวุธของรัสเซียได้



ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์เมื่อวานนี้ว่า รัสเซีย จะยังคงทดสอบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่มีชื่อว่า "โอเรชนิก" (Oreshnik) ที่ยิงใส่ยูเครนไปเมื่อ 2 วันก่อนต่อไป และนอกเหนือไปกว่านั้นจะเริ่มพัฒนาและผลิตระบบใหม่ด้วย ปูตินยังย้ำด้วยว่า ศัตรูไม่สามารถสกัดขีปนาวุธ"โอเรชนิก" ที่มีความเร็วเหนือเสียงถึง 10 เท่านี้ของตนได้



การที่รัสเซียใช้ขีปนาวุธ"โอเรชนิก"ยิงเข้าไปที่เมืองดนิปโปร (Dnipro) พื้นที่ภาคกลางของยูเครน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพื่อเป็นการตอบโต้ที่ยูเครนใช้อาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ และอังกฤษโจมตีเป้าหมายลึกเข้ามาในดินแดนของรัสเซียก่อน สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สงครามที่ดำเนินมาเกือบ 33 เดือนทวีความรุนแรงมากขึ้นไปอีก-ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เรียกร้องให้มีการตอบโต้รัสเซียอย่างจริงจัง



เพื่อที่ผู้นำรัสเซียจะได้ตระหนักถึงผลที่ตามมาจากการกระทำของตนเอง ผู้นำยูเครนยังได้ร้องขอให้ผู้นำชาติตะวันตกจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศรุ่นใหม่ ซึ่งสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ ของรัสเซียรายงานว่า ยูเครนพยายามจะร้องขอให้สหรัฐฯ จัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศระดับความสูงเหนือพื้นดิน (THAAD) หรือ อัพเกรดระบบต่อต้านขีปนาวุธแพตริออต (Patriot) ให้กับยูเครน



สถานการณ์สู้รบรัสเซีย-ยูเครน ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้ กระตุ้นให้ผู้นำโลกหลายคนออกมาเตือนว่า ทิศทางของสงครามอยู่ในภาวะเสี่ยง



นายกรัฐมนตรีวิกโตร์ โอร์บาน ( VIKTOR ORBAN) ของฮังการี่เตือนว่า ชาติตะวันตกควรยอมรับคำเตือนของปูติน และหาทางรับมือรัสเซียตามแนวทางที่แตกต่างออกไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากรัสเซีย "ยึดนโยบายที่อาศัยอำนาจทางทหารเป็นหลัก" ที่สำคัญกองทัพรัสเซียแข็งแกร่งและมีอาวุธทำลายล้างสูง



ขณะที่นายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสก์ (Donald Tusk) ของโปแลนด์กล่าวว่า สงครามกำลังเข้าสู่ช่วงชี้ขาด ซึ่งมีความเสี่ยงอย่างแท้จริงที่จะเกิดความขัดแย้งทั่วโลก



ส่วนผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน เตือนว่า "ไม่เคยเห็นภัยคุกคามของสงครามนิวเคลียร์ที่ทวีความตึงเครียดเช่นนี้มาก่อน



คุณอาจสนใจ

Related News