ต่างประเทศ

อาร์เจนตินาสั่งกักตัวคนบนเรือขนส่งสินค้า หลังพบลูกเรือต้องสงสัยว่าติดเชื้อเอ็มพ็อกซ์

21 ส.ค. 2567

294 views

อาร์เจนตินาสั่งกักตัวคนบนเรือขนส่งสินค้า และห้ามจอดเทียบท่า หลังพบลูกเรือต้องสงสัยว่าติดเชื้อเอ็มพ็อกซ์ หรือ ฝีดาษวานร 1 คน ซึ่งเรือขนส่งสินค้าลำดังกล่าว เป็นเรือสัญชาติไลบีเรีย เดินทางจากเมืองซานโตสของบราซิลเพื่อมารับธัญพืชที่อาร์เจนตินา


ขณะที่เรือกำลังแล่นเข้าใกล้ท่าเรือโรซาริโอ ทางการได้รับแจ้งว่า มีลูกเรือสัญชาติอินเดีย 1 คนมีตุ่มหนองขึ้นตามร่างกาย โดยเฉพาะหน้าอกและใบหน้า ทำให้เขาถูกแยกกักตัวจากลูกเรือคนอื่น ๆ


ตอนนี้ เรือทอดสมออยู่กลางแม่น้ำปารานา นอกชายฝั่งเมืองซานโลเรนโซ และกระทรวงสาธารณสุขจะส่งบุคลากรทางการแพทย์ขึ้นไปตรวจว่าลูกเรือคนดังกล่าวติดเชื้อเอ็มพ็อกซ์จริงหรือไม่ ส่วนลูกเรือที่เหลือก็จะต้องถูกกักตัวจนกว่าผลตรวจจะออกมาเช่นกัน


โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางการอาร์เจนตินาได้ประกาศยกระดับมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเอ็มพ็อกซ์ เช่นเดียวกันกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคลาตินอเมริกา เช่น โคลอมเบีย, เอลซัลวาดอร์, เวเนซุเอลา, และเม็กซิโก หลังองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ประกาศให้โรคเอ็มพ็อกซ์เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับโลก หลังพบการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในทวีปแอฟริกา


ส่วนที่ฟิลิปปินส์ ก่อนหน้านี้ที่มีการรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อเอ็มพ็อกซ์ 1 คน ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขออกมายืนยันแล้วว่าผู้ป่วยรายนี้ติดเชื้อสายพันธุ์ เคลด 2 (Clade) ที่รุนแรงน้อยกว่าและไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในแอฟริกา


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของฟิลิปปินส์ยืนยันว่า โรคเอ็มพ็อกซ์ที่พบในประเทศเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิม ซึ่งอาจมีการแพร่ระบาดอยู่ในประเทศอยู่แล้ว


ปัจจุบันโรคเอ็มพ็อกซ์ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในตอนนี้มี 2 สายพันธุ์หลัก คือ สายพันธุ์เคลด 1 (clade 1) และสายพันธุ์เคลด 2 (Clade) โดยสายพันธุ์เคลด 1 แบ่งแยกสายพันธุ์ย่อยออกมาได้ 2 สายพันธุ์ คือ เคลด 1เอ (Clade 1 A) และเคลด 1บี (Clade 1B) ซึ่งเคลด 1บี เป็นสายพันธุ์ที่ทั่วโลกกำลังกังวลมากที่สุด เพราะรุนแรงกว่าและแพร่ระบาดไวกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งองค์การอนามัยโลกบอกว่าสายพันธุ์นี้มีอัตราการเสียชีวิตประมาณ 3.6% ปัจจุบัน เคลด 1บี ถูกพบในทวีปแอฟริกาอย่างน้อย 4 ประเทศ กับยุโรปอีก 1 ประเทศ คือ สวีเดน


ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อเอ็มพ็อกซ์แล้วกว่า 17,000 คน และเสียชีวิตกว่า 500 คน โดย 96% อยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก หรือ DRC และในกลุ่มผู้ติดเชื้อเป็นเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี มากกว่า 70%


อย่างไรก็ดี นายฮันส์ คลูก ผู้อำนวยการอนามัยโลกภาคพื้นยุโรปยืนยันว่า การแพร่ระบาดของโรคเอ็มพ็อกซ์ ไม่ใช่การระบาดที่รุนแรงเหมือนกับโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์เดิมหรือสายพันธุ์ใหม่ เนื่องจากมีข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสและวิธีในการควบคุมโรคชนิดนี้อยู่แล้ว

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ