ต่างประเทศ

สหรัฐฯ เสียชีวิตรายที่ 3 โรคอาหารเป็นพิษจากการติดเชื้อแบคที “ลิสทีเรีย”

โดย kanyapak_w

9 ส.ค. 2567

1.1K views

แถลงการณ์ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ CDC ระบุว่า ผู้เสียชีวิตรายที่ 3 นี้อยู่ที่รัฐเวอร์จิเนีย ส่วนผู้เสียชีวิต 2 รายแรกอยู่ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ กับอิลลินอยส์


CDC ยังบอกอีกว่านับตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 9 คน อย่างไรก็ดี การแพร่ระบาดของเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้มีมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม ซึ่งพบผู้ป่วยแล้ว 43 คน


รายงานระบุว่าเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทได้เรียกคืนผลิตภัณพ์เนื้อสัตว์แปรรูปน้ำหนักกว่า 7 ล้านปอนดอน์ หลังตัวอย่างของไส้กรอกหมูผสมตับ (liverwurst) ที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐแมริแลนด์เก็บมาตรวจพบเชื้อแบคทีเรียลิสทีเรีย ขณะที่เมื่อวานนี้ ทาง CDC บอกว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในนิวอยอร์กได้ดำเนินการทดสอบตัวอย่างของไส้กรอกดังกล่าว และยืนยันว่าพบเชื้อลิสทีเรียสายพันธุ์เดียวกัน


สินค้าที่ถูกเรียกคืนมีมากกว่า 70 รายการ ซึ่งถูกผลิตจากโรงงานในเมืองจาร์แรตต์ รัฐเวอร์จิเนีย นอกจากไส้กรอกหมูผสมตับแล้ว ยังมีแฮม, ซาลามีเนื้อ, และโบโลญญาด้วย


ขณะที่ ในตอนนี้ บริษัทดังกล่าวกำลังถูกดำเนินคดีทั้งหมด 2 คดี ฐานเป็นต้นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อแบคทีเรีย โดยคดีแรกอยู่ที่ศาลในรัฐมิสซูรี ส่วนอีกคดีเป็นการฟ้องร้องแบบกลุ่มที่ศาลรัฐบาลกลางในนิวยอร์ก


นอกจากจำหน่ายตามร้านค้าทั่วประเทศแล้ว ผลิตภัณฑ์อาหารเนื้อสัตว์แปรรูปยี่ห้อนี้ยังถูกส่งไปขายในต่างประเทศด้วย ไม่ว่าจะเป็นหมู่เกาะเคย์แมน, สาธารณรัฐโดมินิกัน, เม็กซิโก, และปานามา


ทั้งนี้ แบคทีเรียชนิดดังกล่าวสามารถอยู่รอดและเติบโตได้ในตู้เย็น ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงเตือนว่า หากประชาชนนำผลิตภัณฑ์อาหารที่เป็นปัญหาไปทิ้งแล้ว ควรทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในตู้เย็นด้วย


ในแต่ละปี CDC ประมาณการว่ามีประชาชนป่วยเป็นโรคอาหารเป็นพิษจากเชื้อแบคทีเรียลิสทีเรียประมาณ 1,600 คน โดยมีจำนวนนี้เสียชีวิตประมาณ 260 คน


เมื่อติดเชื้อ อาการที่พบบ่อยที่สุดคือ ไข้, ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ, และอ่อนล้า บางครั้งอาจมีอาการสับสนและชักได้ เชื้อแบคทีเรียนี้เป็นอันตรายอย่างมากกับประชาชนที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป รวมถึง ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และหญิงตั้งครรภ์ อย่างไรก็ดี อาการอาจจะไม่ปรากฏนานหลายสัปดาห์หลังจากรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเข้าไป



คุณอาจสนใจ

Related News