ต่างประเทศ

"ทรัมป์" ขึ้นเวทีปราศรัยอย่างเป็นทางการครั้งแรก นับจากเกิดเหตุถูกลอบยิง ท่ามกลางเสียงโห่ร้องและปรบมือของผู้สนับสนุน

โดย kanyapak_w

19 ก.ค. 2567

128 views

"ทรัมป์" เดินขึ้นเวทีด้วยท่าทางที่มั่นใจ ท่ามกลางเสียงโห่ร้องและปรบมือของผู้สนับสนุน เขาเดินไปรอบเวทีเพื่อทักทายประชาชน พร้อมกับพูด “ขอบคุณ (Thank you)” หลายครั้ง ทันทีที่ทรัมป์มายืนประจำโพเดียม ผู้สนับสนุนก็พากันตะโกนว่า “USA! USA!”



อดีตผู้นำสหรัฐฯ เริ่มต้นกล่าวสุนทรพจน์ด้วยการขอบคุณบุคคลต่าง ๆ รวมถึงประชาชนชาวอเมริกัน และว่าเขามายืนต่อหน้าทุกคนวันนี้ พร้อมความมั่นใจ ความเข้มแข็ง และความหวัง โดย 4 เดือนหลังนี้พวกเขาจะได้รับชัยชนะอันน่าทึ่งและเริ่มต้น 4 ปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไปพร้อมกัน



ทรัมป์พูดถึงเหตุการณ์ที่เขาถูกลอบยิงด้วย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เขาพูดเรื่องนี้บนเวทีใหญ่ต่อหน้าสาธารณชนจำนวนมาก เขาบอกว่า “พวกคุณจะไม่ได้ยินเรื่องนี้จากผมอีกเป็นครั้งที่ 2 เพราะมันเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดมากที่จะพูดออกมา” เขาบอกว่า เขาได้ยินเสียงหวีด และรู้สึกว่ามีบางอย่างกระทบกับใบหูด้านขวาของเขาอย่างรุนแรง เขาพูดกับตัวเองว่า นี่มันอะไรกัน เหมือนจะเป็นกระสุน แล้วเขาก็เอามือขวาไปจับที่ใบหู แล้วก็เอาลงมา และเห็นว่ามือของเขาเต็มไปด้วยเลือด



เขาบอกว่า ตอนนั้น เขารู้ทันทีเลยว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงมาก จากนั้นไม่นาน เขาก็ถูกกดลงพื้น เขามองเห็นเลือดเต็มไปหมด แต่ถึงกระนั้น เขาก็รู้สึกปลอดภัยแล้วเพราะพระเจ้าอยู่ข้างเขา ถ้าหากเขาไม่ขยับหัวในวินาทีสุดท้าย กระสุนของมือสังหารก็อาจจะเข้าเป้าไปแล้ว และคืนนี้ เขาก็คงไม่ได้มาอยู่ที่นี่ ทรัมป์ยังย้ำอีกว่า การที่เขาได้มายืนอยู่ที่งานประชุมในค่ำคืนวานนี้เป็นเพราะพระเจ้าได้ช่วยเหลือเขาเอาไว้



ในช่วงหนึ่งบนเวที ทรัมป์และผู้สนับสนุนได้ร่วมกันสงบนิ่ง เพื่อไว้อาลัยให้กับนายคอรีย์ คอมเพราทัวร์ (Corey Comperatore) ที่ถูกยิงจนเสียชีวิตในวันนั้น ทรัมป์บอกว่าคอมเพราทัวร์เสียชีวิตอย่างไม่เห็นแก่ตัวเอง เพราะเขาทำหน้าที่เป็นโล่มนุษย์ป้องกันกระสุนให้กับคนอื่น ก่อนที่ต่อมา เจ้าหน้าที่จะเอาเครื่องแบบของนักดับเพลิงขึ้นมาบนเวที แล้วทรัมป์ก็เดินไปจูบ ทรัมป์ยังบอกอีกว่า ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา พวกเขาระดมเงินให้กับครอบครัวของเหยื่อที่ถูกยิงในวันนั้นไปแล้ว 6.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 220 ล้านบาท)



และก็มาถึงช่วงการตอบรับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ทรัมป์บอกว่า เขาจะทำงานเพื่อชาวอเมริกันทุกคน



นอกจากนี้ เขายังพูดถึงกรณีที่ศาลรัฐบาลกลางในรัฐฟลอริดาได้ยกฟ้องคดีการจัดเก็บเอกสารลับด้วย โดยเขาบอกว่า หากพรรคเดโมแครตต้องการรวมประเทศให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พวกเขาก็ควรหยุดล่าการแม่มด



ทรัมป์ยังโจมตีพรรคเดโมแครตในเรื่องต่าง ๆ เช่น ปัญหาเงินเฟ้อ, การอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย, และความขัดแย้งระหว่างประเทศ



ทรัมป์ยังพูดถึงชื่อของประธานาธิบดีโจ ไบเดนตรง ๆ ด้วย แม้ก่อนหน้านี้เขาเคยบอกว่าจะไม่พูดชื่อของไบเดนแล้วก็ตาม โดยทรัมป์กล่าวว่า หากไปเลือกประธานาธิบดีที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกามา 10 คน และลองคิดดูว่า 10 คนนั้นรวมกันก็ยังไม่สร้างความเสียหายเท่ากับไบเดนเลย และทรัมป์ก็บอกว่าหลังจากนี้ เขาจะไม่เอ่ยถึงชื่อนี้อีก



อย่างไรก็ดี ทรัมป์บอกว่าหากเขาได้กลับมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกหนึ่งสมัย เขาจะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้กับประเทศ เช่น ปัญหาเงินเฟ้อและเศรษฐกิจ ทรัมป์บอกว่าพรรครีพับลิกันของเขาจะลดราคาพลังงานลง ซึ่งเขาอ้างว่ามันจะช่วยลดต้นทุนการขนส่ง, การผลิต, และข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือนทั้งหมด นอกจากนี้ เขาจะลดหนี้ให้กับประเทศ และทำให้ “สหรัฐอเมริกากลับมามีราคาถูกลงอีกครั้ง (Make America Affordable Again)”



การสร้างงาน ทรัมป์บอกว่าเขาจะสร้างงานด้านยานยนต์ให้กับประชาชน ผ่านนโยบายด้านภาษี และจะไม่อนุญาตให้บริษัทอเมริกันไปสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศอื่น ๆ เช่น เม็กซิโกและจีน และย้ำว่า “หากจะขายของในสหรัฐอเมริกา ของเหล่านั้นก็ต้องผลิตในสหรัฐอเมริกา”


การลดภาษี ทรัมป์บอกว่าเขาจะยกเลิกภาษี tax on tip และภาษีทั่วไป และพูดถึงตอนที่เป็นประธานาธิบดีว่า เขาได้ออกกฎหมายลดภาษีจำนวนมากให้กับประชาชน ซึ่งมันกำลังจะสิ้นสุดลงหลังจากปีหน้า ดังนั้น เขาจะต้องกลับเข้าไปทำงานตรงนี้เพื่อขยายกฎหมายการลดภาษีนี้ออกไปอีก



ด้านประกันสังคมและการดูแลสุขภาพ ทรัมป์บอกว่าเขาจะปกป้องโครงการประกันสังคม อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังไม่ได้มีรายละเอียดที่ชัดเจนที่จะจัดการกับปัญหาการล้มละลายของโครงการนี้



ปัญหาพรมแดน ทรัมป์โจมตีรัฐบาลไบเดนที่ระงับนโยบายที่เขากำหนดไว้ในสมัยที่ดำรงตำแหน่ง และว่าหากเขากลับเข้าไป สิ่งแรกที่เขาจะทำคือการปิดพรมแดน และสร้างกำแพงบริเวณชายแดนทางใต้ของสหรัฐอเมริกาให้แล้วเสร็จ และรัฐบาลของเขาจะทำการเนรเทศผู้อพยพครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News