“เกรตแบร์ริเออร์รีฟ” เผชิญการฟอกขาวครั้งใหญ่รอบใหม่ ครั้งที่ 5 ในรอบ 8 ปี

สำนักงานอุทยานแห่งชาติทางทะเลเกรตแบร์ริเออร์รีฟ (GBRMPA) ยืนยันว่า ขณะนี้กำลังเกิดการฟอกขาวครั้งใหญ่ทั่วแนวปะการังแห่งนี้ เป็นครั้งที่ 5 ในรอบ 8 ปี


จากการสำรวจทางอากาศพบว่า การฟอกขาวของปะการังเกิดขึ้นเป็นวงกว้างในบริเวณน้ำตื้น ดังนั้น ทางสำนักงานบอกว่า พวกเขาจำเป็นต้องมีการตรวจสอบน้ำเพื่อยืนยันความรุนแรงของการฟอกขาวต่อไป



โรเจอร์ บีเดน (Roger Beeden) หัวหน้านักวิทยาศาสตร์จาก GBRMPA กล่าวว่า การฟอกขาวของปะการังที่เกรตแบร์ริเออร์รีฟ เกิดขึ้นเหมือนกับแนวปะการังแห่งอื่น ๆ ทั่วโลก ซึ่งเป็นผลมาจากอุณหภูมิพื้นผิวของน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และปรากฏการณ์เอลนีโญ



ในขณะที่ องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ (NOAA) ก็ออกมาเปิดเผยรายงาน ว่าโลกกำลังจะเผชิญกับปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่ครั้งที่ 4 ซึ่งอาจทำให้แนวปะการังในเขตร้อนตายเป็นวงกว้าง ซึ่งรวมถึงบางส่วนของเกรตแบร์ริเออร์รีฟด้วย โดยโนอาบอกว่า ปี 2566 เป็นปีที่โลกร้อนที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บบันทึกสถิติเมื่อปี 1850 ขณะเดียว อุณหภูมิของน้ำทะเลในบางประเทศเพิ่มสูงถึง 37 องศาเซลเซียส



ด้านกองทุนสัตวป่าสัตว์โลกสากล (WWF) ของออสเตรเลียระบุ การฟอกขาวครั้งที่ 5 นี้ แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศกำลังสร้าง “แรงกดดันมหาศาล” ให้กับแนวปะการัง



ทั้งนี้ การฟอกขาว เป็นภาวะที่ปะการังมีสีซีดลงจนมองเห็นเป็นสีขาว เนื่องจากการสูญเสียสาหร่ายที่อาศัยอยู่ในเนื้อเยื่อของปะการัง แม้ว่าปะการังจะสามารถรอดชีวิตจากการฟอกขาวได้ แต่การฟอกขาวอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและการสืบพันธุ์



เกรตแบร์ริเออร์รีฟ เป็นแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีความยาวกว่า 2,300 เมตร และมีพืน้ที่ทั้งหมด 345,000 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่นอกชายฝั่งทางตอนเหนือและตะวันออกของออสเตรเลีย และยังเป็นระบบนิเวศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีปลามากกว่า 1,500 สายพันธุ์ และปะการังแข็ง 411 สายพันธุ์ จึงทำให้แนวปะการังแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น แหล่งมรดกโลก จากองค์การยูเนสโกมานานกว่า 40 ปี



อย่างไรก็ตาม ทางยูเนสโกบอกว่า ตอนนี้ สถานที่แห่งนี้กำลังตกอยู่ภายใต้ “ภัยคุกคามที่ร้ายแรง” จากทะเลที่ร้อนขึ้นและมลภาวะ