ต่างประเทศ
นายกฯ รับยังไม่รู้ชะตากรรม 19 ตัวประกันคนไทย - อิสราเอลเปิดตัวอาวุธสุดล้ำ 'ไอรอน สติง' ทำลายล้างฮามาส
24 ต.ค. 2566
34 views
กลุ่มฮามาสได้ปล่อยตัวประกันออกมา 2 คน เมื่อวานนี้ เป็นหญิงชราชาวอิสราเอลคือ โยเชฟ ลิฟฮิตซ์ วัย 85 ปี และ นูริต คูเปอร์ วัย 79 ปี โดยทั้งสองได้รับการปล่อยตัวผ่านเข้าไปยังอียิปต์ และจะถูกส่งตัวกลับไปยังอิสราเอลต่อไป
ในแถลงการณ์ของกลุ่มฮามาส ระบุว่า ทั้งสองได้รับการปล่อยตัวตามเหตุผลด้านมนุษยธรรม หลังการเจรจาไกล่เกลี่ย โดยมีการ์ตา และอียิปต์ เป็นคนกลาง
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ เมื่อวันศุกร์ กลุ่มฮามาสก็ยอมปล่อยตัวประกันชาวอเมริกัน 2 คน โดยระบุว่า เป็นผลมาจากการเจรจา โดยมีการ์ตาเป็นคนกลางเช่นกัน
ทั้งนี้ กองทัพอิสราเอลยืนยันเมื่อวานนี้ว่า มีตัวประกันทั้งหมด 212 คน ที่ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวเอาไว้
----------
วันที่ 23 ตุลาคม เวลา 15.24 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง แถลงหลังเป็นประธานประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินความไม่สงบในอิสราเอล-กาซา
ได้พูดถึงตัวประกัน 19 คน ยืนยันว่า เวลานี้ยังไม่รู้ชะตากรรม แต่ทุกเส้นทางเราพยายามทำงานกันอยู่ มีเจ้าหน้าที่ชั้นสูงของเราบินออกไป แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าบินไปไหน และพบกับใคร แต่ยืนยันว่าเราทำทุกวิถีทางที่สามารถทำได้ พยายามทำอยู่
สำหรับเรื่องการประสานความช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอล เราประสานทุกช่องทาง แต่ไม่พูดเพราะเป็นเรื่องของความมั่นคง เราใช้ทุกวิถีทางทั้งผ่านนายกฯมาเลเซีย
รวมถึงการที่ตนไปร่วมประชุมเข้าร่วมการประชุม ASEAN – GCC Summit ที่ซาอุดีอาระเบีย ได้พูดคุยกับกษัตริย์โอมานและบาห์เรน รวมถึงมกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย ทุกท่านตระหนักและทราบถึงสถานภาพของคนไทย ว่า เราไม่ได้เป็นคู่กรณี หรือคู่ขัดแย้งเลย และเรามีการสูญเสียที่สูงมาก
-------------
วานนี้ (23 ต.ค. 66) กองทัพอิสราเอลยังเปิดฉากโจมฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการถล่มเป้าหมายถึง 320 จุด ภายใน 24 ชั่วโมง สามารถทำลายล้างอุโมงค์ใต้ดินลับ ที่เป็นแหล่งหลบซ่อนของกลุ่มฮามาส รววมไปถึงศูนย์บัญชาการของกลุ่มฮามาส และสถานที่ต่าง ๆ
กองทัพอิสราเอล ได้เผยแพร่วิดีโอ การล็อคเป้า และถล่มทางอากาศอย่างดุเดือดที่สุด กระจายไปในหลายพื้นที่ของฉนวนกาซา โดยเฉพาะที่ เมืองกาซา ซิตี้
ขณะที่ ทางด้านสื่อในปาเลสไตน์ รายงานว่า อิสราเอลได้เน้นการโจมตีพื้นที่ทางตอนกลาง และเหนือ ของฉนวนกาซา ใกล้กับค่ายผู้ลี้ภัยในเมืองจาบาเลีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ ที่เป็นพลเรือนจำนวนมาก
มีภาพความเสียหายรุนแรงที่เกิดขึ้นที่ย่าน ชีค รัดวาน ในเมืองกาซา ซิตี้ จะเห็นครอบครัว และเด็ก ๆ ชาวปาเลสไตน์ วิ่งหนีตายกันด้วยความวุ่นวาย
ภาพจากเมืองกาซา ซิตี้ เช่นเดียวกัน เป็นภาพความเสียหายอันสุดรันทด สตรีคนหนึ่งนั่งร้องให้อยู่ข้าง ๆ ร่างไร้วิญญาณของญาติ ที่เสียชีวิต ขณะที่ ตามถนนก็มีศพนอนเกลื่อนอยู่ ส่วนคนเจ็บก็นอนรอความช่วยเหลือ
นอกจากนั้น ทางพื้นที่ภาคใต้ ก็เกิดการโจมตีจากอิสราเอลเช่นกัน โดยมีภาพที่เกิดการระเบิดขึ้นใกล้กับค่ายผู้ลี้ภัยในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา
ล่าสุด ยอดผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาทะลุ 5 พันรายแล้ว โดยกระทรวงสาธารณสุขกาซา ระบุว่า ผู้เสียชีวิตในกาซาขณะนี้ อยู่ที่ 5,087 ราย หรือเพิ่มขึ้นถึง 436 ราย ภายในวันเดียว
โดยในจำนวนนี้ เป็นเด็ก 2,055 ราย ผู้หญิง 1,119 ราย และผู้สูงอายุ 217 คน ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 15,273 คน ขณะที่ฝั่งอิสราเอล ผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่ 1,400 คน และบาดเจ็บที่ 5,431 คน
-------------
กองทัพอิสราเอล ได้ใช้อาวุธสุดล้ำตัวใหม่เป็นครั้งแรก ในปฏิบัติการทำลายล้างกลุ่มฮามาส นั่นก็คือ 'ไอรอน สติง' ซึ่งเป็นเครื่องยิงจรวดนำวิถีด้วยเลเซอร์
กองทัพอิสราเอล ยังได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ การทำงานของ ไอรอน สติง ในการถล่มเข้าเป้ากลุ่มฮามาส ที่ยิงเข้าเป้าเครื่องยิงจรวดของกลุ่มฮามาส โดยทำลายลงอย่างราบคาบ
ทั้งนี้ แม้ว่าครื่องยิงจรวดของฮามาสนั้น จะตั้งหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่ของพลเรือน แต่ระบบ ไอรอน สติง ก็สามารถทำลายเป้าหมายได้เฉพาะเจาะจง
กองทัพอิสราเอล ระบุว่า ระบบ ไอรอน สติง เป็นระบบยิงจรวดนำวิถีด้วยเลเซอร์ ซึ่งมีความแม่นยำสูงมาก ระบบนี้ สามารถทำลายเครื่องยิงจรวดของฮามาสได้อย่างแม่นยำ และมีประสิทธิภาพสูง และยังสามารถกำจัดผู้ก่อการร้ายได้หลายสิบรายแล้ว
-------------
สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรตะวันตก ออกแถลงการณ์ร่วมสนับสนุนอิสราเอล พร้อมกับเรียกร้องให้อิสราเอลปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และคุ้มครองพลเรือนด้วย
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา พร้อมด้วยผู้นำชาติตะวันตกอีก 5 ชาติ ได้แก่ สหราชอาณาจักร // ฝรั่งเศส // เยอรมนี // อิตาลี // และแคนาดา
ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน เพื่อเน้นย้ำถึงการสนับสนุนอิสราเอล และสิทธิอันพึงมีในการปกป้องตนเองจากการก่อการร้าย
พร้อมกับเรียกร้องให้อิสราเอลปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และปกป้องพลเรือนผู้บริสุทธิ์จากภัยสงคราม
แถลงการณ์ดังกล่าว มีขึ้นหลังจากที่ ไบเดน ได้หารือทางโทรศัพท์กับผู้นำของ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และแคนาดา ในประเด็นสงครามอิสราเอล-ฮามาส ที่ปะทุขึ้น เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
ซึ่งผู้นำทั้ง 6 ชาติ มีมติร่วมกันในการออกแถลงการณ์ร่วม เน้นย้ำการสนับสนุนอิสราเอล และสิทธิอันพึงมีในการปกป้องตนเองจากการก่อการร้าย
อย่างไรก็ดี ในแถลงการณ์ยังเรียกร้องให้อิสราเอลปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เพื่อลดความสูญเสีย และความเสียหายในพื้นที่ฉนวนกาซา เนื่องจากอิสราเอลได้เพิ่มการโจมตีทางอากาศที่มุ่งเป้าไปที่ฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสทั่วฉนวนกาซา
นอกจากนี้ เหล่าผู้นำของชาติตะวันตกยังให้คำมั่นว่า จะให้ความช่วยเหลือ และช่วยประสานงาน เพื่อให้มั่นใจว่า ผู้ประสบภัยสงครามในฉนวนกาซาจะได้รับน้ำ อาหาร การรักษาพยาบาล และความช่วยเหลืออื่น ๆ ตามหลักมนุษยธรรม พร้อมกับเรียกร้องให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันทั้งหมดทันที
------------
วานนี้ อิสราเอลได้จัดให้ผู้สื่อข่าวจากทั่วโลกเข้าชมคลิปวิดีโอต่างๆที่ยึดมาได้เป็นเหตุการณ์หลายช่วงในปฏิบัติการโจมตีอันสุดโหดร้ายของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้สื่อข่าวนับร้อยคนจากทั่วโลกนั่งชม ที่กรุงเทลอาวีฟ
รายงานระบุว่า ภาพเหตุการณ์ที่ได้เปิดให้ผู้สื่อข่าวชมเป็นการตัดต่อรวมเหตุการณ์ต่างๆเข้าด้วยกัน มีความยาว 43 นาที
โดยหนึ่งในเหตุการณ์ที่ได้ฉายให้ผู้สื่อข่าวชมนั้น เป็นเหตุการณ์ ขณะที่กลุ่มฮามาส ตั้งด่านสกัดอยู่ริมถนน และยิงเข้าใส่รถยนต์คันที่ติดกล้องอยู่จนกระจกแตกจนรถต้องจอด โดยไม่รู้ว่าชะตากรรมของเจ้าของรถนั้นเป็นอย่างไร
และอีกภาพหนึ่งเป็นภาพจากกล้องติดหมวดของนักรบฮามาสเอง เป็นภาพขณะที่มีรถยนต์คันหนึ่งผ่านมา และนักรบฮามาสก็ได้รัวยิงเข้าใส่รถคันดังกล่าว
-------------