ต่างประเทศ

'อิสราเอล' ลั่นสังหาร 2 ผู้นำฮามาสได้ หลังถล่มแบบเข้มข้น ด้าน 'จีน' ชี้ นี่ไม่ใช่การป้องกันตัว

16 ต.ค. 2566

1.9K views

เมื่อวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 06.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ประมาณ 10.30 น. ในไทย) กลุ่มฮามาสได้ตัดสินใจโจมตีประเทศอิสราเอล โดยการยิงจรวดทางอากาศประมาณ 5,000 ลูก พร้อมส่งกองกำลังจากฉนวนกาซาเข้าไปยังอิสราเอล เพื่อโจมตีภาคพื้นดิน โดยเฉพาะอิสราเอลตอนใต้และตอนกลาง และได้จับกุมตัวประกันจำนวนมาก โดยพบว่า คนไทยในประเทศอิสราเอล โดยพบว่า คนไทยในประเทศอิสราเอลได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก ทั้งเสียชีวิต บาดเจ็บ และถูกจับไปเป็นตัวประกัน


ล่าสุด ได้มีคลิปเผยแพร่ภาพของนักรบกลุ่มฮามาสถูกสังหารจำนวนมาก ที่นิคมเกษตร นิริม (คิบบุตซ์ นิริม) ซึ่งเป็นหนึ่งในนิคมเกษตรหลายแห่งในอิสราเอล ที่ถูกกลุ่มฮามาสบุกเข้ามา สาดกระสุน ไล่แทง และเผาผู้คน อย่างน้อย 1,300 คน

----------------

วานนี้ (15 ต.ค. 6) นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉินซึ่งเป็นการผนึกกำลังกันระหว่างฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านเพื่อการไล่ล่ากลุ่มฮามาสโดยเฉพาะ โดยการประชุมครั้งนี้ ถือเป็นการประชุมร่วมกันเป็นครั้งแรก โดยผู้นำอิสราเอลได้ประกาศลั่นว่า จะ 'ล้างบางกลุ่มฮามาส' ในฉนวนกาซาให้สิ้นซาก


การประชุมดังกล่าว ซึ่งจัดขึ้นในกองบัญชาการทหารในกรุงเทลอาวีฟ เริ่มต้นด้วยบรรดารัฐมนตรียืนสงบนิ่งครู่หนึ่ง เพื่อรำลึกถึงชาวอิสราเอล 1,300 คน ที่ถูกสังหารจากการโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. โดย เนทันยาฮู กล่าวว่า รัฐมนตรีทุกคน "ทำงานตลอดเวลาโดยมีแนวร่วมเป็นหนึ่งเดียว"


ผู้นำอิสราเอล กล่าวว่า “กลุ่มฮามาสคิดว่าเราจะถูกทำลาย เราคือผู้ที่จะทำลายกลุ่มฮามาส” เนทันยาฮู กล่าว พร้อมเสริมว่า การแสดงความสามัคคี “ส่งข้อความที่ชัดเจนไปยังประเทศชาติ ศัตรู และโลก”


ขณะเดียวกัน ทางด้านกองทัพอิสราเอล  ได้เผยแพร่วิดีโอภาพการเตรียมพร้อมของรถถัง และกองทหาร โดยระบุว่า ทางกองทัพพร้อมแล้ว สำหรับการบุกภาคพื้นดินในฉวนกาซา


โดยในภาพที่กองทัพอิสราเอลเผยแพร่ออกมานั้น เป็นภาพของกองรถถัง และกำลังพลที่ประจำอยู่ริมชายแดนติดกับกาซา เพื่อแสดงให้เห็นว่า กองทัพพร้อมที่จะปฏิบัติการในขั้นต่อไป


โดยทางด้าน โฆษกกองทัพอิสราเอล ก็ได้แถลงว่า ทางกองทัพยังอนุญาตให้พลเรือนในกาซาอพยพหนีลงไปทางใต้ต่อไป แม้ว่า จะผ่านพ้นเส้นตายที่กำหนดไว้แล้วก็ตาม โดยขณะนี้ กองทัพก็พร้อมสำหรับปฏิบัติการภาคพื้นดินแล้ว


นอกจากนั้น โฆษกกองทัพอิสราเอล ยังบอกว่า ขณะนี้ มีพลเรือนนับแสนคนได้รับการอพยพลงไปทางใต้ และการอพยพก็จะยังคงดำเนินต่อไปอีก ก่อนที่จะมีปฏิบัติการขั้นต่อไปเกิดขึ้น

-----------

ขณะเดียวกัน อิสราเอลก็ยังเดินหน้าถล่มฉนวนกาซาด้วยการโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่องเช่นเคย ทว่าในการโจมตีเมื่อวานนี้ (อาทิตย์ 15 ตุลาคม) รายงานข่าวระบุว่า เป็นการโจมตีที่ 'เข้มข้น' มากที่สุด นับตั้งแต่การสู้รบปะทะขึ้นมาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม โดยจะเห็นการระเบิด และกลุ่มควันลอยขึ้นจากเมืองกาซาซิตี้อย่างต่อเนื่อง ในการถล่มวันที่ 8  


ทั้งนี้ ยอดผู้เสียชีวิตของทั้งสองฝั่งนั้น เพิ่มขึ้นมากกว่า 3,000 ศพ เฉพาะในฉนวนกาซานั้น ตัวเลขของทางการปาเลสไตน์ระบุว่าอยู่ที่ 2,970 ศพ โดยจำนวนนี้เป็นเด็ก ๆ รวมอยู่เป็นจำนวนมาก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเกือบ 1 แสนคน


ส่วนในฝั่งอิสราเอลนั้น มีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของฮามาสอยู่ที่ 1,300 คน ในจำนวนนี้ เป็นทหารอิสราเอลราว 279 นาย ที่ต้องจบชีวิตลง


มีภาพเหตุการณ์ในกาซาซิตี้ ที่ประชาชน และทีมกู้ภัย พยายามขุดซากปรักหักพังของอาคารเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต แต่ส่วนใหญ่จะพบร่างผู้เสียชีวิตมากกว่า


การโจมตีของอิสราเอลเมื่อวานนี้ ยังได้เข้าเป้าที่ ค่ายผู้อพยพ 'อัล ชาตี' ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสตรี และเด็ก


มีภาพขณะที่ ผู้คนกำลังขุดหาผู้รอดชีวิตที่อยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารที่อยู่อาศัยแห่งหนึ่งในกาซาซิตี้ หลังถูกโจมตีจากฝ่ายอิสราเอลจนอาอาคารพังลายลงมาเหลือแต่ซาก  โดยในการค้นหานั้น พบแต่ผู้เสียชีวิต ไม่มีใครรอด โดยพบร่างของสตรี และเด็ก เป็นจำนวนมาก      

----------------

เมื่อวานนี้ (15 ต.ค. 66) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล (IDF) แถลงว่า สามารถสังหาร บิลลาล อัล-เคดรา ผู้บัญชาการกองกำลังนุคห์บา (Nukhba) ของกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นผู้ที่นำการโจมตีในคิบบุตซ์ หนึ่งในนิคมเกษตรจากทั้งหมดราว 20 แห่ง ในประเทศอิสราเอล


แถลงการณ์ของกองทัพอิสราเอล ระบุว่า อัล-เคดรา เสียชีวิตในการโจมตีทางอากาศใน เมือง คาห์น ยูนิส (Khan Younis) ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา เมื่อช่วงค่ำวันที่ 14 ตุลาคม ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับนักรบกลุ่มฮามาส และมุสลิมญิฮาดคนอื่น ๆ  โดยเขาเป็นผู้บัญชาการ หรือเจ้าหน้าที่ของกลุ่มฮามาสคนล่าสุด ที่ทางการอิสราเอลประกาศว่าสามารถสังหารได้


ตามรายงานของกองทัพอิสราเอล ระบุว่า  นายอัล-เคดรา เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสังหารหมู่ชาวอิสราเอล ที่นิคมเกษตรนิริม หรือ คิบบุตซ์ นิริม  ซึ่งเป็นหนึ่งในนิคมเกษตรหลายแห่งในอิสราเอลที่ถูกกลุ่มฮามาสบุกเข้ามาสาดกระสุน ไล่แทง และเผาผู้คนไปอย่างน้อย 1,300 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือน


สื่อรายงานว่า มีคนอย่างน้อย 5 คน ถูกฆ่าในบ้านของตัวเองที่นิคมเกษตรนิริม ขณะที่สมาชิกคนอื่นๆ  ของนิคมเกษตรดังกล่าว ถูกกลุ่มฮามาสปิดล้อมอยู่นาน 9 ชั่วโมง ก่อนที่กองทัพอิสราเอลจะสามารถขับไล่กลุ่มฮามาสออกไปได้


นอกจากนี้ กองทัพอิสราเอล ยังระบุว่า เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้ทำการโจมตีทางอากาศสังหาร อาลี คาดี ผู้นำหน่วยกองกำลังคอมมานโดแห่งหนึ่ง ในระหว่างการโจมตีของกลุ่มฮามาส


และในช่วงค่ำ (14 ต.ค.66) กองทัพอิสราเอลยังได้โจมตีใส่เป้าหมายทางทหารกว่า 100 แห่ง ในฉนวนกาซา รวมถึงกองบัญชาการของกลุ่มมุสลิมญิฮาด ซึ่งเป็นกองกำลังทหารอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ในฉนวนกาซา ผู้อ้างว่าได้ร่วมทำการสู้รบเคียงข้างกลุ่มฮามาส ก็ถูกทำลายจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลด้วยเช่นกัน

----------------
นายแพทย์ ฮุสซัม อาบู ซาฟิยา แพทย์ประจำโรงพยาบาลเด็ก คามาล เอ็ดวาน  ประกาศลั่นว่า พวกเขา และทีมพยาบาล ปฏิเสธไม่ขออพยพหนีออกจากเมือง หลังจากที่ได้รับคำสั่ง


โดยย้ำว่า ไม่สามารถทิ้งเด็กที่ยังนอนป่วย ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจติดเตียงอยู่เป็นจำนวนมาก  อีกทั้ง ที่โรงพยาบาลยังมี ทารกแรกเกิดอีกหลายสิบคนที่ต้องการดูและ ช่วยชีวิตเอาไว้


เขากล่าวว่า การอพยพเด็ก ๆ ก็หมายถึง “การตัดสินประหารชีวิตพวกเขา” โดยที่หลายคนติดใจเครื่องช่วยหายใจและตู้อบเพื่อรักษาโรคต่างๆ


"อย่างที่คุณเห็นในส่วนนี้เต็มไปด้วยกรณีทารกแรกเกิด เด็กเหล่านี้ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ทางการแพทย์เป็นหลัก เพราะพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วยเฉพาะที่ติดมาตั้งแต่เกิดมาด้วย ไม่มีมนุษยชาติใดในโลกที่สามารถจะะตัดการเชื่อมต่อเด็กเหล่านี้จากอุปกรณ์พวกนี้ และย้ายพวกเขาไปยังสถานที่อื่น”


"ถ้าหากคุณต้องการฆ่าเรา ฆ่าเราในขณะที่เราทำงานที่นี่ต่อไป เราก็จะไม่ยอมจากไป เราต้องการวันและสัปดาห์เพื่อรักษาความปลอดภัย น่าเสียดายที่ไม่มีสถานรับเลี้ยงเด็กที่ว่างท่ามกลางสภาวะที่ยากลำบากเหล่านี้ สถานการณ์นี้อันตรายจริง ๆ การย้ายเด็กเหล่านี้จากสถานที่นี้ หมายถึงการตัดสินประหารชีวิตพวกเขา พวกเขาจะตาย และอุปกรณ์นี้ทำงานโดยใช้ไฟฟ้า และออกซิเจนเท่านั้น"


ด้าน นายแพทย์ คันดีล ประจำโรงพยาบาลนัสเซอร์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่อันดับ 2 ในเมืองกาซาซิตี้ ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ในโรงพยาบาลกำลังเหลือน้ำมันเพื่อการปั่นไฟน้อยลงทุกที และคาดว่าจะหมดลงในไม่ช้านี้


คันดีล กล่าวว่า "เรากำลังพูดถึงการน้ำมันที่กำลังลดหรอลงเรื่อย ๆ  นั่นหมายความว่า ถ้ำน้ำมันหมดเมื่อไหร่  ระบบสุขภาพ และอุปกรณ์ทั้งหมดจะดับลง เราไม่สามารถให้บริการได้  ผู้ป่วยทั้งห้องไอซียู ในห้องฟอกไต จะต้องเผชิญกับอันตรายถึงชีวิต


เรากำลังพูดถึงภัยพิบัติ อาชญากรรมสงคราม โศกนาฏกรรม ซึ่งจะเป็นประวัติศาสตร์ และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นอกจากการสังหารหมู่  และการทำลายล้างสูงแล้ว พวกเขายังหยุดจ่ายเชื้อเพลิง น้ำ ไฟฟ้า ให้กับผู้คนประมาณ 2 ล้านคนที่เคยถูกปิดล้อมมาอยู่ก่อนแล้วด้วยซ้ำ”
----------------

ที่เมือง ข่านยูนีส ในฉนวนกาซา ประชาชนที่นี่กำลังเจอกับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการที่ถูกอิสราเอลปิดล้อมมานานหลายวัน มีประชาชนจำนวนมากต้องเข้าแถวรอนับชั่วโมง เพื่อรอรับส่วนแบ่งไม่ว่าจะเป็นน้ำ และอาหารที่เหลืออยู่อย่างจำกัดเท่านั้น


ทั้งนี้ เมืองข่านยูนิส เป็นเมืองที่อยู่ทางใต้ลงไปจากเมืองกาซาซิตี้ และเป็นเมืองเป้าหมายที่คนจากกาซาซิตี้จะอพยพหนีลงไป


โดยชาวบ้านคนหนึ่ง กล่าวว่า เขาต้องรอเข้าแถวนานนับชั่วโมง เพื่อเติมน้ำ 1 แกลลอน โดยที่บ้านของเขานั้น ไม่มีน้ำเหลืออยู่เลย เป็นเวลานาน 5 วันแล้ว


มีภาพชาวปาเลสไตน์จำนวนมาก ต้องเข้าแถวรอรับการแจกจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง  โดยประชาชนหลายคนเป็นคนจากเมืองกาซาซี้ตี้ ที่อพยพหนีลงมาจากเมืองกาซาซิตี้ด้วย


ชาวปาเลสไตน์คนหนึ่งกล่าวว่า "เราหนีลงมาจากเมืองกาซาซิตี้ และมาที่เมืองนี้ แต่ที่นี่ก็ไม่มีอะไรเลย ไม่มีน้ำมัน ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำ และไม่มีอะไรทั้งสิ้น"

----------------
หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ชี้การกระทำของอิสราเอลในกาซา “เกินขอบเขตการป้องกันตนเอง” และรัฐบาลอิสราเอลต้อง “หยุดการลงโทษที่เหมารวมประชาชนทั้งหมดในกาซา”


นอกจากนั้น หวัง อี้ ยังเรียกร้องให้วอชิงตันรับบทบาทที่สร้างสรรค์ และมีความรับผิดชอบในสถานการณ์ความขัดแย้งนี้


การแสดงความคิดเห็นดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนที่สุดของจีนเกี่ยวกับความขัดแย้งในกาซานั้น เกิดขึ้นระหว่างที่ หวัง อี้ หารือทางโทรศัพท์กับเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาร์ฮาน รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันเสาร์  14 ต.ค.


จากแถลงการณ์ที่กระทรวงต่างประเทศจีน เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (15 ต.ค. 66) หวัง อี้ กล่าวว่า การกระทำของอิสราเอลเกินขอบเขตการป้องกันตนเอง และอิสราเอลควรรับฟังเสียงเรียกร้องจากนานาชาติ รวมถึงเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) และหยุดการลงโทษที่เหมารวมประชาชนทั้งหมดในกาซา


ทั้งนี้ ประชาชนกว่าล้านคน ทางตอนเหนือของดินแดนที่ถูกปิดล้อมดังกล่าวไ ด้รับคำสั่งให้หนีก่อนการโจมตี ที่คาดว่ากำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งกลุ่มบรรเทาทุกข์ ระบุว่า  การอพยพหนีภัยนี้ จะนำไปสู่หายนะด้านมนุษยธรรม


รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ระบุว่า ทุกฝ่ายไม่ควรดำเนินการที่ทำให้สถานการณ์ลุกลาม รวมทั้งควรกลับสู่โต๊ะเจรจาโดยเร็วที่สุด


ขณะเดียวกัน สถานีซีซีทีวีของทางการจีนรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ ว่า ไจ๋ จุน ผู้แทนพิเศษของจีน จะเดินทางเยือนตะวันออกกลางในสัปดาห์นี้ เพื่อผลักดันการหยุดยิงในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับฮามาส และส่งเสริมการเจรจาสันติภาพ รวมทั้งปกป้องพลเรือน และทำให้สถานการณ์ผ่อนคลายลง ไจ๋ จุน ยังให้สัมภาษณ์ว่า แนวโน้มที่ความขัดแย้ง จะลุกลามออกไปเป็นสิ่งที่น่ากังวลอย่างยิ่ง


ทั้งนี้ จีนเริ่มมีบทบาทเพิ่มมากขึ้นในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะการเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดิอาราเบีย และอิหร่าน สองมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ท่ามกลางความวิตกกังวลของสหรัฐฯต่ออิทธิพลของจีน ที่มีมากขึ้นในภูมิภาคนี้

----------------

คุณอาจสนใจ