รู้จัก 'ไอรอน โดม' ปราการเหล็กคุ้มกัน 'อิสราเอล' - หนุ่มเล่านาทีฮามาสโยนระเบิดใส่งานดนตรี

เมื่อวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 06.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ประมาณ 10.30 น. ในไทย) กลุ่มฮามาสได้ตัดสินใจโจมตีประเทศอิสราเอล โดยการยิงจรวดทางอากาศประมาณ 5,000 ลูก พร้อมส่งกองกำลังจากฉนวนกาซาเข้าไปยังอิสราเอล เพื่อโจมตีภาคพื้นดิน โดยเฉพาะอิสราเอลตอนใต้และตอนกลาง และได้จับกุมตัวประกันจำนวนมาก โดยพบว่า คนไทยในประเทศอิสราเอลได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก ทั้งเสียชีวิต บาดเจ็บ และถูกจับไปเป็นตัวประกัน

อิสราเอลเดินหน้าปฏิบัติการถล่มกลุ่มฮามาสต่อเนื่องเป็นวันที่ 4  ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมแล้วมากกว่า 1,800  โดยในจำนวนนี้รวมทั้งผู้เสียชีวิตทั้งพลเรือน และทหารในอิสราเอลที่ถูกกลุ่มฮามาสบุกเข่นฆ่าตั้งแต่วันเสาร์ รวมไปถึงผู้เสียชีวิตในปาเลสไตน์หลังจากที่อิสราเอลเปิดฉากถล่มทางอากาศอย่างแหลกลาญ และต่อเนื่อง และตัวเลขจะพุ่งสูงขึ้นไปอีกเรื่อยๆเนื่องจากการนับศพผู้เสียชีวิตในอิสราเอลเองก็ยังไม่สิ้นสุด ขณะที่กองทัพอิสราเอลก็เดินหน้าถล่มกาซาต่อเนื่องไร้วี่แววจะหยุดเช่นกัน

สื่ออิสราเอลระบุว่า เหยื่อที่เสียชีวิตจากการโจมตีของฮามาสที่ถือเป็นการโจมตีที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ 75 ปีของอิสราเอล พุ่งทะลุ 900 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนที่ถูกยิงในบ้าน บนถนน และในงานแสดงดนตรี ขณะที่เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 765 คนแล้วจากการถล่มโจมตีตอบโต้ของอิสราเอล นอกจากนั้นมีรายงานจากกองทัพอิสราเอลว่า พบศพพวกนักรบปาเลสไตน์ราวๆ 1,500 ศพในบริเวณภาคใต้ของอิสราเอล แต่ยังไม่มีการยืนยัน

ทางด้าน สหประชาชาติ แถลงว่าจากการถล่มโจมตีอย่างแหลกลาญของอิสราเอลตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะนี้ทำให้ชาวปาเลสไตน์   180,000 คนในกาซาตอนนี้กลายเป็นผู้ไม่มีที่อยู่อาศัย หลายคนต้องนอนริมถนนหรือในโรงเรียน ควันและเปลวไฟคละคลุ้งไปทั่ว และการทิ้งระเบิดลงตามถนนสายต่างๆ ทำให้บ่อยครั้งทีมฉุกเฉินไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกโจมตีได้

ทางด้าน กองทัพอิสราเอลยังเผยว่า เข้าควบคุมพื้นที่ทางใต้และพรมแดนรอบกาซาส่วนใหญ่ได้แล้ว ระหว่างต่อสู้กับนักรบฮามาสที่กบดานในกว่า 10 เมืองทั่วอิสราเอล โดย จนถึงเวลานี้ อิสราเอลยังไม่เสร็จสิ้นการนับยอดรวมจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายอย่างเป็นทางการจากการถูกฮามาสบุกโจมตีเมื่อวันเสาร์

นอกจากนี้อิสราเอลยังปิดล้อมดินแดนกาซาอย่างสมบูรณ์แบบตั้งแต่วันจันทร์ โดยตัดขาดสิ้นเชิงการลำเลียงน้ำ อาหาร ไฟฟ้า น้ำมัน และข้าวของเครื่องใช้จำเป็นอื่นๆ ไปให้แก่พลเรือนในดินแดนแห่งนี้ ซี่งมีชาวปาเลสไตน์พำนักอาศัยราว 2.3 ล้านคน

การโจมตีของอิสราเอลในวันอังคารทำลายหลายเขตในกาซาจนพังราบ โรงเรียน, อาคารที่อยู่อาศัย หรือแม้แต่อาคารขององค์การสหประชาชาติก็ถูกทำลายหรือได้รับความเสียหาย ขณะที่ฝ่ายฮามาสก็ยิงจรวด ‘คาสซาม’ (Qassam) เข้าใส่อิสราเอลมากกว่า 5,000 ลูกแล้ว นับตั้งแต่การต่อสู้เริ่มขึ้น

อิสราเอลยังเรียกระดมพลทหารกองกำลังสำรองถึง 300,000 นาย ทำให้เกิดความกังวลว่า พวกเขาอาจกำลังเตรียมการโจมตีภาคพื้นดิน ซึ่งเสี่ยงทำให้เกิดการปะทะระยะประชิดในเขตชุมชน รวมถึงในอุโมงค์ใต้ดิน และจุดที่ตัวประกันถูกจับตัวเอาไว้

ขณะเดียวกัน กองพล “อัล คัสเซ็ม” ซึ่งเป็นหน่วยกองกำลังฮามาสระบุว่า จะไม่เจรจาเกี่ยวกับตัวประกันที่ถูกลักพาจากประเทศอิสราเอลจนกว่าการสู้รบจะสิ้นสุด

อาบู โอไบดา โฆษกกองพลอัลกัสเซ็ม ระบุว่า เป็นที่ชัดเจนที่ตัวประกันของศัตรูอยู่ในความเสี่ยงเช่นเดียวกับประชาชนของเราจากผลของการบุกรุกฉนวนกาซา

“เรายืนยันว่าจะไม่แลกเปลี่ยนความเห็นหรือเจรจาต่อรองเกี่ยวกับตัวประกันขณะที่กำลังบุกรุกหรือสู้รบกันอยู่”

-------------
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐออกโรงแถลงประณามกลุ่มฮามาส ว่าเป็น “การกระทำที่ชั่วร้ายอย่างยิ่ง” และเน้นย้ำว่าสหรัฐฯ สนับสนุนอิสราเอล ซึ่งจากเหตุการณ์ที่กลุ่มฮามาสบุกสายฟ้าแลบโจมตีอิสราเอลนั้นทำให้มีชาวสหรัฐเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 14 คน  

ผู้นำสหรัฐ ด้กล่าวถึงการเข่นฆ่าเหยื่อของกลุ่มฮามาสว่าเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายที่ทำให้รู้สึก "คลื่นไส้"  มีผู้เป็นพ่อแม่ถูกฆ่า มีการสังหารทารก การฆ่ายกครัว  สตรีถูกข่มขืน ทำร้ายร่างกาย และขบวนแห่ (ศพ)เหมือนกับถ้วยรางวัล

ขณะเดียวกัน ทางด้าน นาย เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ  เปิดเผยว่า ทำเนียบขาวกำลังวางแผนฉุกเฉินสำหรับกรณีที่อาจจะเกิด “สถานการณ์ลุกลามใดๆทั้งหมด”  ซึ่ง การวางแผนดังกล่าวครอบคลุมถึงการส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก "เพื่อส่งข้อความที่ชัดเจนของการป้องปราม" และจัดหาระบบ “ไอรอน โดม” ซึ่งเป็นระบบสกัดกั้นทางอากาศสุดล้ำให้กับอิสราเอลเพิ่มอีกด้วย

ขณะเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า นาย แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจะเดินทางเยือนอิสราเอลในวันนี้ 11 ตุลาคม และจะพบปะกับบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลเพื่อหารือถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และยังคาดว่าจะเดินทางไปยังประเทศอื่นๆหลังจากนั้นด้วยแต่ยังไม่เปิดเผยว่าจะไปประเทศใดบ้าง

-------------

Iron Dome (โดมเหล็ก) คืออะไร

คือ ระบบสกัดกันที่ใช้เรดาห์ตรวจจับขีปนาวุธ หรือจรวดพิสัยใกล้ เมื่อระบบจับได้ จะทำการยิงจรวดออกไปสกัด ซึ่งชื่อว่า ทามี อินเตอร์เซ็ปเตอร์ 

ระบบขีปนาวุธป้องกันภัย ไอรอนโดม ผลิตโดย บริษัทของอิสราเอลคือ Rafael Advanced Defense Systems และ Israel Aerospace Industries โดยได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐ หลังจากทดสอบปี 2551 และ 2552 ไอรอนโดมชุดแรกก็ได้เริ่มถูกนำไปใช้ในปี 2554 ก่อนอัพเดตระบบหลายครั้ง โดย กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล กล่าวว่า ระบบนี้มีอัตราความสำเร็จสูงสุดถึง 95.6%

โดยล่าสุด อิสราเอลได้อ้างว่า จากการโจมตีด้วยจรวด 5,000 ลูก ของฮามาส ไอรอนโดมสามารถป้องกันได้ถึง 90% จนกลายเป็นระบบป้องกันการโจมตีที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก

ทั้งนี้ ไอรอนโดม มีต้นทุนในการพัฒนาระบบที่สูงมาก โดยคาดว่าจะมีราคาถึง 100,000 - 250,000 เหรียญ ต่อการโจมตีแต่ละครั้ง 

ไอรอนโดม สามารถแยกแยะได้ว่า จรวดจะตกไปที่จุดใด และจุดใดเสียหายน้อยที่สุด หากเป็นพื้นที่ชุมชนใด ๆ ก็จะยิงสกัดก่อน แยกแยะได้ แต่หากคาดการณ์แล้วว่าจะตกลงสู่ป่า ก็ปล่อยไปได้

ปัจจุบันนั้นอิสราเอลมีไอรอนโดม จำนวน 10 เครื่องทั่วทั้งประเทศ แต่ละจุดมีเครื่องยิง 3-4 เครื่อง แต่ละจุดมีจรวดทั้งหมด 40 ชุด

-------------

อญาตอลเลาะห์ อาลี คาไมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าวเมื่อวานนี้ ยืนยันประเทศอิหร่านไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอล นับเป็นครั้งแรกผู้นำสูงสุดอิหร่านออกมาแสดงความคิดเห็นตั้งแต่วิกฤติอิสราเอล-ฮามาสปะทุขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

คาไมนี  แถลงผ่านโทรทัศน์ ระบุว่า กลุ่มผู้สนับสนุนลัทธิ “ไซออนิสต์” (Zionist) ที่เชื่อว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังกลุ่มฮามาสนั้นไร้สาระสิ้นดี  พวกเขากำลังเข้าใจผิด อีกทั้งยังเป็นฝ่ายอิสราเอล และลัทธิไซออนิสต์ที่ต้องถูกตำหนิในฐานะผู้เริ่มวิกฤตินี้

นอกจากนี้ ผู้นำอิหร่านยังได้ชื่นชมการกระทำของกลุ่มฮามาส ที่ทำให้อิสราเอลพ่ายแพ้ได้ และยังทำลายโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของอิสราเอลจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ พร้อมทั้งยกย่องชาวปาเลสไตน์ว่า “มีความสามารถ ฉลาด และกล้าหาญ” และยืนยันว่าอิหร่านจะให้ความช่วยเหลือปาเลสไตน์ต่อไป

ขณะเดียวกัน ทางด้าน นายจอน ฟิเนอร์ รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ไม่มี “ข้อมูลโดยตรง” ที่เชื่อมโยงว่าอิหร่านมีส่วนกับการโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาสเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมเตือนไม่ให้อิหร่านเข้ามายุ่งในวิกฤติครั้งนี้ เนื่องจากไม่ต้องการให้สถานการณ์บานปลาย

ทั้งนี้ เป็นที่รู้กันดีว่า อิหร่านมีความสัมพันธ์กับกลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่มในตะวันออกกลางที่เป็นปฏิปักษ์กับอิสราเอล ไม่ว่าจะกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์  หรือ กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ในเลบานอน
-------------

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นิคม คฟาร์ อาซา คิบบุตซ์  ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอิสราเอล กลายเป็นจุดที่เกิดการสังหารหมู่อย่างรุนแรง โดยฝีมือของกลุ่มนักรบฮามาส  มีศพทั้งของชาวบ้านชาวอิสราเอลและพวกนักรบฮามาส นอนตายอยู่บนพื้นข้าง ๆ เครื่องเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกทิ้งเกลื่อนกลาด และรถยนต์หลายคันที่ถูกเผาวอด หลังจากที่กลุ่มฮามาสบุกเข้าโจมตีเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ทหารอิสราเอลซึ่งขณะนี้เข้าไปช่วยเหลือคนในนิคมดังกล่าวเผยว่า มีเด็กทารก และเด็ก ๆ รวมอย่างน้อยถึง 40 คน ถูกสังหารในเมืองนี้ และทารกหลายคนยังถูก ตัดศีรษะ อีกด้วย

พลตรี อิไต เวรุฟ ของกองทัพอิสราเอลกล่าวว่า “คุณจะเห็นเด็กๆ ทารก ทั้งคุณแม่ คุณพ่อ ในห้องนอนของพวกเขา ในห้องเซฟรูมของพวกเขา และเห็นวิธีที่พวกผู้ก่อการร้ายสังหารพวกเขา มันไม่ใช่สงคราม มันไม่ใช่สนามรบ แต่มันเป็นการสังหารหมู่”

ทั้งนี้ ทหารอิสราเอลบอกว่า มีกลุ่มนักรบฮามาสราว 70 คน ติดอาวุธครบมือได้บุกเข้ามาที่นิคมแห่งนี้ และเปิดฉากเข่นฆ่าอย่างไม่เลือกหน้า

-------------

มีภาพเหตุการณ์ระทึก เมื่อมีผู้ถ่ายคลิปเอาไว้ได้ เมื่อนักรบฮามาสได้บุกเข้าไปยังเมือง ซเดอร์รอต ซึ่งเป็นเมืองแรก ๆ ที่ถูกกลุ่มฮามาสบุกโจมตี

กองกำลังฮามาสนั่งรถปิ๊กอัพเข้ามาในเมืองและบุกยึด โดยมีการสังหารพลเรือน และทหารอิสราเอลในเมืองด้วย

รายงานระบุว่า มีพลเรือนอย่างน้อย 20 ศพ ที่ถูกสังหารในเมืองนี้รวมไปถึงทหารและตำรวจอิสราเอลอีก 12 คน เสียชีวิต

หลังจากนั้น กลุ่มนักรบฮามาสได้บุกเข้าไปยึดอาคารสถานีตำรวจเอาไว้

หลังจากนั้นในช่วงค่ำ  ทางด้านกองทัพอิสราเอลได้เสริมกำลังเข้ามา และใช้รถไถบดขี้ทั้งสถานีตำรวจ ทำให้นักรบฮามาสที่อยู่ภายในสถานีตำรวจเสียจำนวนมาก

-------------

มีวิดีโอสุดสะเทือนใจ เมื่อเด็กชายชาวอิสราเอลคนหนึ่ง ถูกนักรบฮามาสจับตัว และลักพาตัวไปเป็นตัวประกัน ที่บ้านเกิดของเด็กน้อยเอง

ภาพดังกล่าวมาจากเมือง นีร์ ออซ ทางตอนใต้ของอิสราเอล ซึ่งจะเห็นช่วงนาทีที่กลุ่มฮามาสจับตัวเด็กชายคนนี้ซึ่งชื่อว่า เอเรซ คัลเดรอน

โดยในคลิปวิดิโอ จะมีเสียงผู้ชายคนหนึ่งได้วิงวอนให้ให้ฮามาสไว้ชีวิตเด็กคนนี้โดยบอกว่า "อย่าทำอันตรายกับเขเลบ เขายังเด็ก ปล่อยไปเถอะ เด็กคนนี้อายุน่าจะแค่ 10 ขวบ เท่านั้นเอง"

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีเสียงวิงวอนก็ไม่เป็นผล เด็กเคราะห์ร้ายถูกนำตัวไปยังฉนวนกาซาแล้ว

-------------
มีภาพร่างไร้วิญญาณของทารก ที่ถูกนำตัวออกมาจากซากอาคาร หลังอิสราเอลโจมตีฉนวนกาซา และยังมีภาพที่กู้ภัยของปาเลสไตน์อุ้มเด็กออกจากซากตึกเพื่อหนี 

-------------

ย้อนกลับไปงานเทศกาลดนตี ซาฮา หนุ่มอิสราเอล 30 ปี และคนอื่น ๆ ได้พากันไปหลบตรงที่กันบังรวม 30 คน แต่กลุ่มฮามาสโยนระเบิดเข้าใส่ เพื่อนผู้หญิงที่พยายามวิ่งหนีก็โดนยิงตายต่อหน้า

-------------