'ครอบครัวศรีวัฒนประภา' เตรียมฟ้อง บ.เฮลิคอปเตอร์ หลังผลสอบไร้มาตรฐานในการสร้าง ทำ ฮ.ตก

วานนี้ (6 ก.ย. 66) บริษัท คิง เพาเวอร์ แถลงการณ์เฮลิคอปเตอร์ตก ที่สโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ เกิดจากความผิดของ เลโอนาร์โด (Leonardo) บริษัทผู้ผลิตเฮลิคอปเตอร์ ตามข้อมูลจากรายงานอุบัติเหตุทางอากาศ

โดยระบุว่า 6 ก.ย. 2566 - สำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของประเทศอังกฤษ (Air Accident Investigation Branch – AAIB) ตีพิมพ์รายงานอุบัติเหตุทางอากาศ เกี่ยวกับอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ที่สนามฟุตบอลของ สโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อเดือนตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้โดยสาร 5 ราย ได้แก่

• เจ้าของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา
• กัปตันเอริก สวอฟเฟอร์
• กัปตันอิสซาเบลลา โรซา เลโควิช
• นายกวีพร พันธุ์แพ
• นางสาวนุสรา สุขหน้าไม้

รายงานอุบัติเหตุทางอากาศ ซึ่งมีความยาวและรายละเอียด 209 หน้า ได้แสดงถึงความกังวลอย่างมาก เกี่ยวกับระบบความปลอดภัยของเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ และความเคลือบแคลงในการผลิตเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ของ เลโอนาร์โด เอส.พี.เอ. (Leonardo S.p.A.) บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ สัญชาติอิตาลี

รายงานอุบัติเหตุทางอากาศ ได้สรุปสาเหตุของโศกนาฏกรรมเฮลิคอปเตอร์ตกในครั้งนี้ว่า

มีสาเหตุมาจากความล้มเหลวของระบบควบคุมใบพัดหาง ที่หลุดออกจากกัน  ทำให้เฮลิคอปเตอร์หมุนคว้าง จนเสียการควบคุม และตกลงมาสู่พื้นดินในที่สุด ทั้งนี้ เป็นที่ชัดเจนว่า นักบินไม่มีส่วนในอุบัติเหตุครั้งนี้ และเป็นเหตุที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของนักบิน

ทั้งนี้ ตลับลูกปืนที่ใบพัดหางแตก อันเนื่องมาจากการแตกร้าว การเสียดสี การเสื่อมสภาพของจาระบี ก่อนกำหนด และความร้อนที่สูงเกินไปในตลับลูกปืน ทำให้ตลับลูกปืนแตก

รายงาน ยังระบุอีกว่า เลโอนาร์โด มีความบกพร่องในการออกแบบ และผลิตเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ จนทำให้เกิดเหตุโศกนาฏกรรม ในครั้งนี้ กล่าวคือ

ไม่ส่งผลการทดสอบการบินที่สำคัญ ให้แก่บริษัทผู้ผลิตตลับลูกปืน

เพื่อให้ยืนยันว่า ตลับลูกปืนที่เลือกใช้เหมาะสมกับเฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้ ทั้งนี้ หากเลโอนาร์โดได้ส่งข้อมูลการทดสอบดังกล่าว ให้แก่บริษัทผู้ผลิตตลับลูกปืน ก็อาจจะมีความเป็นไปได้ ที่จะไม่เลือกใช้ตลับลูกปืนดังกล่าวกับเครื่องรุ่นนี้

ไม่มีข้อกำหนดของผู้ผลิต ให้ตรวจสอบสภาพ และความสมบูรณ์ของตลับลูกปืนเป็นประจำ ตามกำหนดเวลา และชั่วโมงบิน

ทั้งที่ทราบว่า ตลับลูกปืนเป็นชิ้นส่วนที่มีความสำคัญ ต่อการทำการบินของเฮลิคอปเตอร์

ไม่มีแผน หรือมาตรการรองรับ ในกรณีที่เกิดความเสียหายต่อตลับลูกปืน เพื่อลดทอน หรือบรรเทาความเสียหาย ที่จะเกิดขึ้นต่อผู้โดยสาร

ทั้งที่ เลโอนาร์โด ระบุเองว่า ตลับลูกปืนเป็นชิ้นส่วนที่สำคัญมาก และหากตลับลูกปืนเสียหาย อาจทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้

นายวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของสโมสรฟุตบอล เลสเตอร์  ซิตี้ ได้ซื้อเฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้มา เพราะเชื่อว่า เป็นเฮลิคอปเตอร์ที่มีความปลอดภัย และล้ำสมัยที่สุดในเวลานั้น

รายงานอุบัติเหตุทางอากาศ ยังได้ชี้อีกว่า เลโอนาร์โดไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยที่สำคัญหลายประการ ทำให้ต้องตั้งคำถามอย่างจริงจังเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยของเครื่องบิน ที่ผลิตโดยบริษัทแห่งนี้

อุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกและรายงานอุบัติเหตุทางอากาศที่ตีพิมพ์ออกมานี้ ได้สร้างความเศร้าโศกอย่างยิ่งแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกราย ซึ่งทางครอบครัวของผู้เสียชีวิต ได้ขอบคุณสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของประเทศอังกฤษ ที่ได้ทำการสอบสวน และจัดทำรายงานสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้โดยละเอียด

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา บุตรชายของวิชัย ศรีวัฒนประภา กล่าวว่า

“ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเวลาเกือบ 5 ปี แล้ว ที่ผมสูญเสียคุณพ่อไป

รายงานฉบับนี้ เป็นหลักฐานที่ชัดเจน ถึงความกังวลเกี่ยวกับเลโอนาร์โด คุณพ่อของผมเชื่อว่า ได้ซื้อเฮลิคอปเตอร์ที่ปลอดภัยมาจากหนึ่งในผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก

หากคุณพ่อของผมได้รับทราบสิ่งที่ระบุไว้ในรายงานฉบับนี้ก่อน ท่านคงไม่เอาชีวิตของท่านไปเสี่ยงกับเครื่องบินแบบนี้แน่นอน ความเศร้าโศกที่ผมและครอบครัวได้รับ เป็นสิ่งที่เกินกว่าจะบรรยายได้

จนถึงทุกวันนี้ ครอบครัวของผมยังคงใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความเศร้าโศก นับตั้งแต่วันที่คุณพ่อจากไป คุณพ่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผม และสมาชิกในครอบครัวทุกคนมาตลอด พวกเราคิดถึงท่านมาก”

ครอบครัวของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา กัปตันเอริก สวอฟเฟอร์ และอิสซาเบลลา เลโควิช ได้ว่าจ้างสำนักงานกฎหมายชั้นนำที่ประเทศอังกฤษอย่าง Stewarts ในการดำเนินการทางกฎหมายต่อบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ โดยครอบครัวของกัปตันเอริก สวอฟเฟอร์ และอิสซาเบลลา เลโควิช ได้ยื่นฟ้องคดีที่ศาลในประเทศอิตาลีแล้ว

-------------

วานนี้ (ว6 ก.ย. 66) ทีมข่าวรายงานว่า จากการเปิดเผยของหน่วยงานตรวจสอบอุบัติทางอากาศของอังกฤษ (AAIB) ระบุว่า ผู้โดยสารที่อยู่ด้านหลัง ร้องตะโกนขึ้นมาว่า "เฮ้ เฮ้ เฮ้" ขณะที่ เครื่องบินเริ่มหมุนแบบไร้ทิศทาง

ต่อมา นายเอริก สวอฟเฟอร์ นักบินวัย 53 ปี ได้พูดขึ้นมาว่า “เขาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” ไม่กี่นาทีต่อมาเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวก็ตกลงสู่พื้นจากระดับความสูง 130 เมตร ทำให้ผู้โดยสาร 3 คน ซึ่งประกอบไปด้วย นายวิชัย ศรีวัฒนประภา, นางสาวนุสรา สุขหน้าไม้ พนักงานคิงเพาเวอร์, และนายกวีพร พรรณแพร พร้อมนักบิน 2 คนเสียชีวิตยกลำ

เจ้าหน้าที่สืบสวนพบว่า คันเหยียบของนักบินไม่สามารถควบคุมใบพัดส่วนหางได้ ทำให้เฮลิคอปเตอร์หมุนไปทางขวาอย่างรวดเร็ว จนคุมไม่อยู่ โดยทาง AAIB ระบุว่า เฮลิคอปเตอร์หมุนวนถึง 5 รอบ

สื่ออังกฤษยังรายงานด้วยว่า นายสวอฟเฟอร์เป็นนักบินที่มีประสบการณ์สูง เห็นได้จากคำพูด และการกระทำของเขา ที่พยายามควบคุมเฮลิคอปเตอร์ ด้วยการยกคันโยก เพื่อลดแรงกระแทก ซึ่งตอนแรก 4 คน ที่อยู่เฮลิคอปเตอร์ รอดจากการกระแทกแล้ว แต่ต่อมาก็เสียชีวิตจากการถูกไฟไหม้

----------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/i6fcpgnOyYs