ต่างประเทศ

ลูกศิษย์โพสต์อาลัย ครูสาวไทยไปเรียนภาษาเกาหลี เสียชีวิตในเหตุ 'โศกนาฎกรรมอิแทวอน'

โดย nattachat_c

31 ต.ค. 2565

1.1K views

เมื่อคืนวันเสาร์ 29 ต.ค. ล่วงเข้าวันที่ 30 ตุลาคม 65 ในการฉลองงานเทศกาลฮาโลวีน ที่ย่านเที่ยวกลางคืนอิแทวอนของกรุงโซล เกาหลีใต้ ได้เกิดเหตุ 'โศกนาฎกรรมอิแทวอน' ผู้คนได้เบียดเสียด ล้มและเหยียบกัน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 153 ราย  และบาดเจ็บ 82 คน (สาหัส 33) ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถหาสาเหตุที่แท้จริงได้ 


เหตุ 'โศกนาฎกรรมอิแทวอน' นี้ ชาวเกาหลีใต้หลายคนได้ทำดอกไม้มาวางไว้ที่บริเวณถนนสายที่เกิดเหตุในย่านอิแทวอน โดยหลายคนบอกว่าไม่เชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจริงๆ บางคนบอกว่าทุกอย่างเงียบไปหมด เป็นเรื่องที่ทั้งเศร้าและน่ากลัว ขณะที่บางคนบอกว่าแทบจะนอนไม่หลับเลยเมื่อได้ทราบข่าวนี้ 


ทั้งนี้ บริเวณย่านอิแทวอน ยังคงถูกปิดตาย ร้านค้าต่างๆ จะถูกปิดทั้งหมด จนกว่าการไว้อาลัยทั่วประเทศจะสิ้นสุดลง 


ประธานาธิบดี ยุน ซอก ยอล กล่าววว่า รัฐบาลจะกำหนดให้ช่วงเวลาตั้งแต่นี้ไป จนกว่าเหตุการณ์จะเรียบร้อย เป็นช่วงเวลาไว้อาลัยระดับประเทศ


ขณะที่ ฮัน ดอค ซู นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การไว้อาลัยต่อเหยื่อผู้เสียชีวิตในเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้จะมีตั้งแต่วันอาทิตย์นี้ (30 ต.ค.) ไปจนถึงวันเสาร์ (5 พ.ย.) ตามคำสั่งประธานาธิบดี ซึ่งจะมีการตั้งแท่นไว้อาลัยขึ้นในใจกลางกรุงโซล เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมแสดงความเคารพ และไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิต


นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ยังประกาศให้เขตยงซาน ซึ่งเป็นที่ตั้งของย่านอิแทวอนที่เกิดเหตุ เป็นเขตภัยพิบัติพิเศษ ที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจะได้รับค่าชดเชยและค่าทำศพสำหรับผู้เสียชีวิต ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บยังจะได้รับการดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลด้วย


สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิต กระทรวงมหาดไทยของเกาหลีใต้ระบุจำนวนชาวต่างชาติที่เสียชีวิตยังอยู่ที่ 20 ราย


ส่วนสำนักข่าวยอนฮัป อ้างเจ้าหน้าที่ดับเพลิงว่า จำนวนชาวต่างชาติที่เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้เพิ่มขึ้นเป็น 22 ราย โดยเป็นชาวจีน 4 ราย // อิหร่าน 4 ราย // ชาติละ 1 รายจากสหรัฐอเมริกา / ฝรั่งเศส / ออสเตรเลีย / เวียดนาม / นอร์เวย์ / คาซัคสถาน ศรีลังกา / ออสเตรีย / ไทย ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 1 รายยังไม่มีการระบุสัญชาติ

-------------

นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ล่าสุด สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับรายงานจากทางการเกาหลีใต้ว่า มีคนไทย 1 คน เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นสุภาพสตรี อายุ 27 ปี ที่เดินทางมาเรียนภาษาที่เกาหลีใต้เป็นเวลา 2 เดือน ซึ่งในขณะนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งให้ญาติของผู้เสียชีวิตรับทราบแล้ว พร้อมทั้งจะดำเนินการให้ความช่วยเหลือจัดการศพผู้เสียชีวิตต่อไป 


ซึ่งผู้ใช้เฟซบุ๊ก Suchada Maneesungnoen ได้โพสต์ข้อความระบุว่า 

" RIP. คนไทย 1คนไทยผู้ที่ได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ วันที่ 29 ตุลาคม 2565 วันฮาโลวีน ประเทศเกาหลีใต้ โซล ถนนอิแทวอน


ไม่คิดว่าจะเป็นบุคคลที่รู้จัก ที่จะต้องมาเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้เลย เพราะเป็นครูสอนภาษาเกาหลีอยู่ที่ไทย ที่เคยสอนเราเพื่อที่จะสอบยื่นวีซ่า


ครูน่ารักเสมอ เวลาไปเรียนซื้อขนมของกินไปฝากครูด้วย ส่วนมากไม่ค่อยได้สอน แต่จะเม้าส์กันเรื่องไร้สาระ จนหมดเวลา ครูสอนบอกเตือนเรื่องการดูนิสัยของคนเกาหลี หรือผู้ชายที่จะคุย ที่จะใช้ชีวิตร่วมด้วย แนะนำแต่สิ่งดีๆ ให้เสมอ ไม่เคยลืมคำพูดคำสอนที่ครูได้สอนไว้


ขอให้ครูไปสู่สุขคติภพภูมิที่ดี ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้เราได้พบกันอีกครั้ง

รักและไว้อาลัย"

-------------

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในทวิตเตอร์ ได้มีการร่วมแชร์ข้อความตามหาคนสูญหาย 2 คน โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ @karinep_yss โพสต์ข้อความและภาพของผู้หญิง 2 คน ที่คาดว่าน่าสูญหายไปในเหตุการณ์อีแทวอน โดยระบุว่า “เรากำลังตามหาเพื่อน 2 คนอยู่ ติดต่อกันไม่ได้เลยค่ะ ถ้าใครได้เจอหรือเห็นที่ไหน ติดต่อมาหน่อยนะคะ”


ชาวเน็ตหลายคนก็นำรูปภาพบุคคล ที่คิดว่ามีใบหน้าคล้ายกับผู้สูญหายมาคอมเมนต์ถามสาวรายนี้ว่าใช่หรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบว่าไม่ใช่และตอนนี้ก็ยังหาไม่เจอ โดยในทวิตเตอร์ต่างเข้าไปสอบถามว่ามีรูปพรรณสัณฐานอื่น ๆนอกเหนือจากในภาพที่ประกาศตามหาหรือไม่ เนื่องจากตอนนี้มีผู้พบเห็นบุคคลใกล้เคียงกับคนในภาพจากการแต่งกายคล้ายกันค่อนข้างเยอะ หากช่วยนำมาโพสต์อาจช่วยตามหาง่ายขึ้น อยากให้พบเจอ ขอให้ทั้งคู่ปลอดภัย บางคนแนะนำให้ติดต่อผ่านสถานทูต


ล่าสุด ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายดังกล่าว ได้ทวีตข้อความอีกครั้ง แจ้งว่า ตอนนี้เจอทั้งคู่แล้ว แต่ทั้งคู่เสียชีวิต พร้อมขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันตามหา โดยข้อความระบุว่า

“ตอนนี้เจอแล้วค่ะ แต่เสียชีวิตทั้ง 2 ขอขอบคุณทุกคนที่พยายามช่วยตามหา

Thank you to all for your help. We found them but they sadly passed away...

May they rest in peace..”
-------------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Mr4exWedW0M


คุณอาจสนใจ

Related News