ต่างประเทศ

ญี่ปุ่นรวบหนุ่มไทย ฝึกงานการเกษตรที่อิบารากิ ลอบปลูกกัญชา 31 ต้น โทษหนักทั้งจำทั้งปรับ

โดย nattachat_c

22 ก.ย. 2565

1K views

วานนี้ (21 ก.ย.65) ตำรวจญี่ปุ่นและหน่วยควบคุมยาเสพติดญี่ปุ่น เข้าจับกุมตัวคนไทย อายุ 21 ปี พนักงานฝึกงานการเกษตรที่เมืองอิบารากิ ลักลอบปลูกกัญชาไว้ 31 ต้น โดยปลูกไว้ตั้งแต่เดือน มิ.ย.65 ซึ่งการปลูกกัญชา ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายในญี่ปุ่น

นอกจากนี้ยังพบว่า ครอบครองกัญชาแห้ง 0.2 กรัม และ ส่วนประกอบของกัญชาแห้งอื่นๆ 51.9 กรัม ภายในที่พักอาศัย ทำให้ถูกแจ้งข้อหามีกัญชาในครอบครอง

ทั้งนี้กัญชา-กัญชง เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศญี่ปุ่น โดยหากฝ่าฝืน มีไว้ในครอบครองเพื่อนำเข้าและส่งออก มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ขณะที่มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 3 ล้านเยน

-------------

เมื่อวานนี้ (21 ก.ย.) นายภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงเรื่อง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ว่า พรรคภูมิใจไทย เป็นผู้ผลักดันนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ และเศรษฐกิจ โดยมีสมาชิกทั้งจากสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา เห็นชอบในประมวลกฎหมายยาเสพติด ส่งผลให้มีการปลดล็อกกัญชา และออกกฎหมายควบคุม เพื่อไม่ให้เสรี จนไร้ขอบเขต


นายภราดร กล่าวว่า การที่กรรมาธิการร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง นำกฎหมายเข้าเสนอต่อสภา สภาก็ต้องให้โอกาสเขาชี้แจงรายมาตรา จะเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย หรือแก้ไข ก็ว่าไปตามกระบวนการ ไม่ใช่มาดึงรั้ง เตะออก ถ่วงเวลา ให้กม.ไม่ได้รับการพิจารณา


"การที่บอกว่า ทำไมจึงไม่ทำกฎหมายควบคุมก่อนการปลดล็อก ก็เป็นเรื่อง ไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อนกัน ซึ่งเป็นปัญหาโลกแตกว่าอะไรควรจะเกิดก่อนกันแน่ ประมวลกฎหมายยาเสพติดออกมามีผลให้เกิดการปลดล็อกกัญชา กัญชง จากนั้นมีประกาศกระทรวงสาธารณสุข ตามที่กรรมการป้องกันยาเสพติด เสนอ แล้ว พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ได้เสนอตามมา ถ้าไม่เล่นการเมือง ก็คงจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว แต่นี่ต้องการเตะถ่วง ออกไปอีก 3 เดือน 6 เดือน ซึ่งจะส่งผลให้กัญชา กัญชง ไม่มีกฎหมายควบคุม แล้วจะหาเหตุให้นำกัญชา กัญชง กลับเป็นยาเสพติดอีกครั้ง ถือเป็นเกมการเมืองที่อำมหิตมาก แทนที่ประชาชนจะได้ใช้ประโยชน์จากกัญชา กัญชง อย่างเต็มที่ ทั้งด้านสุขภาพ การแพทย์ และเศรษฐกิจ ซึ่งในตลาดโลก อนาคตจะมีมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท"
----------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/aWV57J8LJNA

คุณอาจสนใจ

Related News