"มาลี" อ้างไทยโจมตีต่อเนื่อง - "ฮุนเซน" ลั่นหมดความอดทน สั่งยกระดับตอบโต้ - "ฮุนมาเนต" อัดไทยใช้กำลัง

พลโทมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลง กองทัพไทยเดินหน้าโจมตีกัมพูชาต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ล่าสุดไทยขยายการโจมตีเข้ามายังจังหวัดโพธิสัตว์ด้วย



พนมเปญ โพสต์รายงานว่า พลโทมาลีออกมาแถลงว่า วันนี้ไทยยังคงยิงปืนใหญ่โจมตีเข้ามายังดินแดนกัมพูชา นอกจากนี้ยังขยายการโจมตีมายังจังหวัดโพธิสัตว์ ซึ่งที่โพธิสัตว์นี้ ไทยเริ่มใช้ควันพิษโจมตีก่อน จากนั้นก็ตามมาด้วยกระสุนปืนใหญ่



พลโทมาลีกล่าวว่า กองทัพไทยได้ปฏิบัติการยิงอย่างต่อเนื่องเกือบตลอดทั้งคืนในเขตพื้นที่ทหารที่ 5 ของตำบลทมาดา ตั้งแต่เวลา 04.58 น. ถึง 05.25 น. ของเช้าวันนี้ โดยไทยเริ่มจากใช้โดรนขนาดใหญ่บินลาดตระเวนเข้าไปในพื้นที่พนมตระงอล (Phnum Tra Ngol) หลังจากนั้นก็ยิงควันพิษ



จากนั้นตั้งแต่เวลา 05.30 น. ถึง 06.10 น. ไทยยังได้ยิงถล่มพื้นที่โอพลุก ดำเรย (O’Phluk Damrei ) ด้วยปืนใหญ่ขนาด 105 มม. และยิงเข้ามายังจังหวัดโพธิสัตว์ด้วย



ส่วนเขตทหารพื้นที่ 4 ซึ่งรวมถึงจังหวัดพระวิหารและจังหวัดอุดรมีชัย ก็ถูกโจมตีด้วยเช่นกันเมื่อ 04.45 น. โดยเล็งเป้าหมายไปที่พื้นที่พนม ก-มอจ (Phnum Khmoch)



จากนั้นไทยก็ขยายขอบเขตการโจมตีไปยังพื้นที่อื่นๆอีกหลายพื้นที่ และยังยิงควันพิษใส่ ปราสาทตาควายด้วย



พลโทมาลียังได้เผยยอดผู้เสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้ ทำให้พลเรือนกัมพูชาเสียชีวิต 7 คน บาดเจ็บ 20 คน

ส่วนสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ประกาศว่า แม้กัมพูชาจะใช้ความอดกลั้นมาเป็นเวลากว่า 24 ชั่วโมง เพื่อเคารพข้อตกลงหยุดยิงและเปิดโอกาสให้มีการอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย แต่ในขณะนี้กัมพูชาจำต้องปฏิบัติการตอบโต้ทางทหารเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ



สมเด็จฯ ฮุน เซนระบุว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีของไทย ได้ประกาศแผนการที่จะใช้กำลังเข้ายึดพื้นที่เป้าหมาย 11 จุด แม้ว่าทางกัมพูชาจะยังไม่ทราบพิกัดที่แน่ชัดก็ตาม เพื่อให้ง่ายต่อปฏิบัติการและหลีกเลี่ยงความยุ่งยากในการระบุเป้าหมายเฉพาะเจาะจง ขอให้กองกำลังติดอาวุธทุกเหล่าทัพของกัมพูชาทำการตอบโต้กลับในทุกจุดที่มีการโจมตีจากฝ่ายศัตรู



ฮุน เซนกล่าวว่า เรากำลังปกป้องดินแดนของเราด้วยบังเกอร์ที่แข็งแกร่งและอาวุธยุทโธปกรณ์ทุกรูปแบบ ส่วนศัตรูผู้รุกรานนั้น จำเป็นต้องเปิดเผยตัวออกมาเพื่อโจมตีฐานที่มั่นของเรา พวกเขาไม่สามารถแบกบังเกอร์ติดตัวมาได้ และศีรษะของพวกเขาก็ไม่ได้ทำด้วยเหล็ก สถานการณ์เช่นนี้ทำให้เรามีความได้เปรียบในการดำเนินกลยุทธ์เพื่อทำลายกำลังพลของข้าศึกผ่านการตั้งรับอย่างเป็นระบบ



นอกจากนี้ ฮุน เซนยังได้กล่าวถึงคำพูดของแม่ทัพภาคที่ 1 ของไทย ซึ่งอ้างว่า กองทัพไทยจะทำลายขีดความสามารถในการป้องกันประเทศในระยะยาวของกัมพูชา เพื่อสร้างหลักประกันความมั่นคงให้กับประชาชนชาวไทย โดยบอกว่า "วาจาของนายพลผู้นี้ช่างกล้าหาญยิ่งกว่าคำพูดของบรรดาชาติมหาอำนาจทางทหารของโลกเสียอีก เราจะไม่ยอมนั่งงอมืองอเท้าปล่อยให้พวกคุณมาทำลายล้างเราได้ตามอำเภอใจอย่างแน่นอน"



สมเด็จฯ ฮุน เซน ยังได้ตอบโต้กระแสวิพากษ์วิจารณ์จากนักการเมืองฝ่ายค้านของกัมพูชา ซึ่งก่อนหน้านี้เคยกล่าวหารัฐบาลว่าเป็น "พวกกระหายสงคราม" ในช่วงเหตุปะทะเมื่อเดือนกรกฎาคม โดยกล่าวว่าเมื่อกัมพูชาใช้ความอดกลั้นเพื่อเคารพข้อตกลงหยุดยิงและแสวงหาทางออกโดยสันติวิธี นักการเมืองกลุ่มเดิมกลับกล่าวหาว่ากัมพูชาหวาดกลัวไทยและไม่กล้าต่อสู้ หรือกล่าวหาว่ากำลังจะยกดินแดนให้ไทยเพื่อแลกกับสันติภาพ



ฮุน เซนทิ้งท้ายว่า บัดนี้ "เรากำลังลุกขึ้นสู้เพื่อป้องกันตนเองอีกครั้ง พวกเขาจะพูดอะไรต่อไปอีก? กัมพูชาปรารถนาสันติภาพ แต่กัมพูชาจำเป็นต้องทำการตอบโต้กลับเพื่อปกป้องดินแดนของเรา"

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/0BQoccEcDIc