ญาติเศร้า รับศพ ‘8 แรงงานไทย’ เสียชีวิตในอิสราเอล ขอวิญญาณสงบสุข

ร่างแรงงานไทยเสียชีวิตในอิสราเอลชุดแรก 8 ราย ถึงไทยแล้ว เตรียมลำเลียงส่งกลับภูมิลำเนาในวันนี้ทันที ญาติขอขอวิญญาณสงบสุข ขณะที่ปลัดกระทรวงแรงงาน เผยยังมีแรงงานไทยอีกกว่า 2 หมื่น คนที่ยังไม่ประสงค์เดินทางกลับ

เมื่อเวลาประมาณ 9.30 นาทีที่ผ่านมา ร่างของคนไทยที่ไปทำงานที่อิสราเอลทั้ง 8 ราย ที่เสียชีวิตจากการโจมตีของกลุ่มฮามาส ได้เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน อิสราเอล แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ LY 083 ซึ่งเดินทางออกจากอิสราเอลเมื่อวานนี้ตอน 2 ทุ่ม

โดยร่างคนไทยที่เสียชีวิตทั้ง 8 ราย ประกอบด้วย

1. นายพงษธร ขุนศรี ชาวจังหวัดนครราชสีมา

2. นายพิชิต นาจันทร์ ชาวจังหวัดขอนแก่น

3. นายชัยรัตน์ สานุสันต์ ชาวจังหวัดอุดรธานี

4. นายอานันต์ เพชรแก้ว ชาวจังหวัดชัยภูมิ

5. นายพงษ์พัฒน์ สุชาติ ชาวจังหวัดศรีสะเกษ

6. นายอนุชา โสภากุล ชาวจังหวัดอุดรธานี

7. นายพงษ์เทพ กุสะรัมย์ ชาวจังหวัดขอนแก่น

8. นายธนกฤจฒ์ ปรากฎวงษ์ ชาวจังหวัดสุโขทัย

โดยทันทีที่ร่างของแรงงานไทยมาถึงจะมีพิธีรับศพ เจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศ และ กระทรวงแรงงาน ได้นำพวงหรีดของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรง นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน และคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงานมาวางไว้เพื่อทำพิธีแสดงความอาลัย

นางสาววงเดือน ล้ำเลิศ น้าของนายอานันต์ เพชรแก้ว หนึ่งในแรงงานไทยที่เสียชีวิต เปิดเผยว่าหลานของตน ได้ไปทำงานอยู่ที่ฟาร์มเลี้ยงวัวในประเทศอิสราเอลได้ 2 ปี 5 เดือน โดยแคมป์งานที่หลานอยู่เป็นแคมป์แรกๆ ที่ถูกกลุ่มฮามาสบุกยิง ทางครอบครัวติดตามข่าวและพยายามติดต่อหลานชายทุกทาง จนกระทั่งได้โทรศัพท์คุยกับภรรยาของหลาน จนทราบว่าหลานได้คุยโทรศัพท์กับภรรยาครั้งสุดท้ายช่วงเช้าของวันเกิดเหตุ คือวันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งเป็นคุยกันตามปกติ แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อหลานได้อีก

ตนได้พยายามเข้าไปหาเฟซบุ๊กของเพื่อนหลาน จนเห็นว่ามีภาพหลานกำลังนั่งกินข้าวอยู่กับเพื่อนภายในแคมป์คนงาน ซึ่งก็ยังดูปกติ หลังจากนั้นผ่านไป 8 ชั่วโมงปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อหลานชายได้ ญาติจึงพยามหาเฟซบุ๊กของเพื่อนหลานอีก เป็นเวลานานกว่า 10 วัน แต่ก็ไม่มีเบาะแสอะไร จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาบอกว่าหลานของตนเสียชีวิต ตอนนี้ตนอยากเห็นร่างของหลานว่าเป็นอย่างไร และใส่เสื้อสีฟ้า ซึ่งเป็นเสื้อตัวโปรดของหลานหรือไม่ ส่วนแม่ของหลานเมื่อรู้ข่าวก็ถึงกับเป็นลม

ทั้งนี้หลานของตนเป็นคนขยัน ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ มีลูกสาวอายุ 12 ปี จำนวน 1 คน โดยก่อนหน้านี้หลานเปิดโรงกลึงอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ แต่ต้องปิดโรงงานเพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจในช่วงโควิด และไปทำงานที่อิสราเอล เพื่อต้องการหาเงินมาใช้หนี้ ซึ่งหากดวงวิญญาณของหลานรับรู้ได้ อยากบอกว่า ขอให้กลับบ้านมาหาลูก มาหาแม่ และมาหาครอบครัว

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงานบอกว่า หลังจากนำร่างแรงงานไทยส่งไปถึงที่ภูมิลำเนา กระทรวงแรงงาน จะนำเงินช่วยเหลือไปมอบให้ญาติ 40,000 บาท ซึ่งญาติจะต้องเตรียมเอกสารต่างๆ เพื่อยื่นต่อทางการของประเทศอิสราเอล เพราะประเทศอิสราเอลจะมีเงินจากกองทุน ที่จะให้ภรรยาผู้เสียชีวิต โดยจะได้รับเงินเดือนละ 40,000 บาท ต่อเดือน จนกว่าจะมีครอบครัวใหม่ และลูกของผู้เสียชีวิตจะได้เงิน 8,000 - 12,000 บาทต่อเดือนจนอายุ 18 ปี

ส่วนการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลได้มีการพิสูจน์มาแล้ว ครอบครัวสามารถนำร่างไปทำพิธีทางศาสนาได้เลย แต่หากครอบครัวไหนยังติดใจก็สามารถตรวจพิสูจน์ซ้ำได้

ขณะที่ยอดแรงงานไทยที่ต้องการเดินทางกลับอยู่ที่ 8,389 คน และยังมีอีกจำนวนกว่า 20,000 คนที่ยังคงทำงานและไม่ประสงค์เดินทางกลับ และยังมีแรงงานไทยอีกหลายคนที่ยังอยู่ในพื้นที่สีแดง ที่ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งได้ประสานทางการอิสราเอลให้เข้าไปช่วยเหลือแล้ว

โดย นายวิเชียร บุญช่วย หัวหน้าทีมลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตของสยามฟิวเนอรัลในเครือสุริยาหีบศพ เปิดเผยว่าขอแสดงความเสียใจครอบครัวของผู้เสียชีวิต แต่ก็ยินดีที่จะทำภารกิจนี้เพื่อช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน โดย ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

ด้านบรรยากาศ ที่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ที่นี่มีแรงงานไทยเสียชีวิต 3 ราย แต่กำหนดส่งกลับวันนี้ 2 ราย คือนายพิชิต และนายพงษ์เทพ วันนี้พ่อนายพงษ์ ได้จัดเตรียมงานศพรอรับแขก ญาติพี่น้อง ที่จะมาร่วมงานศพลูกชาย เมื่อศพมาถึงจะเก็บศพไว้ 3 วัน และจะทำพิธีฌาปนกิจในวันจันทร์นี้ ส่วนศพของพี่ชายซึ่งเป็นลูกชายอีกคนยังไม่มา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกว่า มีรายชื่อแล้ว รอตรวจอัตลักษณ์ ก่อนส่งศพกลับประเทศไทย ซึ่งตอนนี้ตนเองพอจะทำใจได้บ้างแล้ว

ขณะที่ แม่ของนายพิชิต เตรียมจัดงานศพให้กับลูกชาย โดยมีกำหนดสวดอภิธรรม 3 คืน ส่วนในเรื่องของการประกอบพิธีฌาปนกิจลูกชายนั้นจะคุยกันอีกครั้งว่าจะทำอย่างไร เพราะมีผู้เสียชีวิตพร้อมกับลูกชาย คือนายพงษ์ที่ศพกลับมาพร้อมกันกับลูกชายและอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน

ส่วนที่ สุโขทัย ครอบครัวของนายธนกฤจฒ์ และเพื่อนบ้านหลังทราบข่าว ได้มีการจัดเตรียมสถานที่ โดยจะนำร่างของนายธนกฤจฒ์ มาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดหนองหญ้าปล้อง อ.ทุ่งเสลี่ยม และจะทำการฌาปนกิจศพ ในวันที่ 24 ต.ค.นี้ เวลา 15.00 น.

ด้าน พี่ๆ ของนายธนกฤจฒ์ เล่าว่า นายธนกฤจฒ์ เป็นน้องคนสุดท้อง เป็นคนดีขยันทำงาน ก่อนไปทำงานยังประเทศอิสราเอล ก็ได้กู้เงินจาก ธกส.ไปทำงาน พอทำงานได้ 1-2 ปี ก็สามารถปลดหนี้ได้ พวกตนขอขอบคุณทางการที่ช่วยนำร่างของน้องกลับมา จะได้คลายกังวล และจะได้นำร่างของน้องมาประกอบพิธีทางศาสนา โดยคาดว่าร่างของน้องจะมาถึงวันนี้ ประมาณ 18.00 น.

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/8r0_6N-HPR0