'ปฏิบัติการลอนดอนบริดจ์' หลังควีนเอลิซาเบธที่ 2 สวรรคต

เมื่อวานนี้สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 กษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดของสหราชอาณาจักรสวรรคต ขณะมีพระชนมมายุ 96 พรรษา ซึ่งทางการอังกฤษได้มีการวางแผนล่วงหน้า เพื่อรับมือกับเหตุการณ์นี้มาก่อนหน้านี้แล้ว แผนการหลังสมเด็จพระราชินีนาถสวรรคตนี้มีขึ้นภายใต้ชื่อรหัส "ปฏิบัติการลอนดอนบริดจ์"

สำหรับรายละเอียดของแผนการคือ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นางลิซท์ ทรัสส์ จะได้รับแจ้งด้วยรหัสคำว่า "London Bridge is down" หรือ สะพานลอนดอนล่มแล้ว จากนั้นนายกรัฐมนตรีก็จะเริ่มดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ ด้วยการแจ้งข่าวการสวรรคตไปยังผู้นำในเครือจักรภพ ภายในเวลาไม่กี่นาที ส่วนเจ้าหน้าที่พระราชวังนำป้ายประกาศข่าวการสวรรคตมาติดไว้หน้าประตูใหญ่พระราชวังบัคกิ้งแฮม และแจ้งข่าวด่วนต่อสำนักข่าวต่างๆ ซึ่งบรรดาสถานีโทรทัศน์ วิทยุ จะรายงานข่าวนี้เป็นระยะเวลาหลายวัน

นอกจากนี้ยังมีการเตรียมการในส่วนเรื่องมาตรการความปลอดภัยและการจราจร ขณะที่พระราชวงศ์จะประกาศแผนพระราชพิธีบรมศพ คาดว่า จะจัดขึ้นเป็นเวลา 10 วัน

หลังจากวันสวรรคต สภาองคมนตรีรวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐบาลอาวุโส ร่วมประชุม เพื่อประกาศให้พระเจ้าชาร์ลส์ ขึ้นเป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่ พระเจ้าชาร์ลส์จะเป็นผู้นำประชาชนถวายความไว้อาลัยต่อการสวรรคตในฐานะกษัตริย์พระองค์ใหม่ของสหราชอาณาจักร และประมุขของเครือรัฐจักรภพ 14 ชาติ ส่วน คามิลลา พระชายาจะขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินี (Queen Consort) พระองค์ใหม่ ขณะที่เจ้าชายวิลเลี่ยมและแคทเธอรีน พระชายา ทรงเป็นดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์และคอร์นวอลล์

ส่วนเป็นบรรยากาศของพสกนิกรร่วมรำลึกถึงการสวรรคตของควีนอลิซาเบธแห่งสหราชอาณาจักร หลายคนเสียใจและไม่คาดคิดว่า จะสูญเสียบพระองค์ภายในเวลาอันรวดเร็ว

ขณะที่เช้านี้ บรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล มีการลดธงครึ่งเสา แสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร

โดยนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้ให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง ลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 3 วัน ในวันที่ 9-11 ก.ย.2565 และขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงาน เพื่อเดินทางไปลงนามในสมุดแสดงความเสียใจ ณ สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย