เปิดปฏิบัติการช่วยแรงงานไทยกลับบ้าน จากเหตุ ‘อิสราเอล-ปาเลสไตน์’

วันที่ 9 ต.ค. 66 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน, ผศ.ดร.มาโนชญ์ อารีย์ อาจารย์ภาควิชารัฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มศว พร้อมด้วยครอบครัวของแรงงานไทยที่ได้รับบาดเจ็บในอิสราเอฃ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ในรายการโหนกระแส ถึงการอพยพคนไทยจากการสู้รบระหว่าง “อิสราเอล – ฮามาส” โดยเผยว่าได้รับรายงานจากสถานทูตไทยในอิสราเอลว่าจะมีการเปลี่ยนแผนการลำเลียงคนกลับประเทศ จากเดิมที่จะใช้เครื่องบิน C130 ของกองทัพอากาศลำเลียงคนไทยกลับประเทศ ล่าสุดเปลี่ยนแผนโดยให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บกลับมาโดยใช้สายการบินพาณิชย์เป็นลำดับแรก หากอิสราเอลเปิดน่านฟ้า

ส่วนแรงงานไทยในอิสราเอลที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ และมีความประสงค์จะกลับไทย จะให้อพยพโดยเครื่องบิน C130 ของกองทัพอากาศในลำดับถัดไป

ขณะที่แม่ของหนึ่งในผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเผยว่า ตอนแรกลูกชายยังไม่ได้รับผลกระทบ แต่เขาบอกแม่ว่า เกือบได้ส่งกระดูกกลับบ้าน แม่ก็เลยวิดีโอคอลคุยกับลูกชายตอนนั้นก็ยังปกติดี แต่หลังจากนั้นเขาต้องไปที่แคมป์คนงาน แล้วประสบเหตุรุนแรงมีการกราดกระสุนจนคนงานหลายคนได้รับบาดเจ็บ รวมถึงหนุ่มด้วย ซึ่งถูกกระสุนยิงเข้าที่ร่างกายหลายส่วน โดยเฉพาะที่ใบหน้า ตอนนี้ยังติดต่อลูกชายไม่ได้ ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร

ก่อนที่ รมต.แรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้รับการประสานจากสถานทูตประจำกรุงเทลอาวีฟ ทราบว่า หนุ่มเป็นหนึ่งในคนไข้ที่อาการหนัก แต่อยู่ในความดูแลของแพทย์แล้ว

ซึ่งขณะนี้แรงงานไทยที่อยู่ในอิสราเอล มีอยู่ประมาณ 2 หมื่นคน แต่ที่อยู่ในพื้นที่ปะทะ มีอยู่ประมาณ 5 พันคน โดยหลังเกิดเหตุ ทางเอเจนซีที่พาแรงงานไทยไปทำงาน ได้พาแรงงานเหล่านี้ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว ล่าสุดในจำนวนราวๆ 5 พันคนนี้ มีแรงงานไทยที่ลงทะเบียนขอกลับไทยแล้ว 1,099 คน

ในส่วนของการเยียวยา ในกรณีที่เสียชีวิต หรือบาดเจ็บ ทางรัฐบาลอิสราเอลจะมีเงินเยียวยาให้อย่างแน่นอน เท่าที่ทราบ รายที่เสียชีวิตจะได้ 1.4 ล้านบาท แต่ในส่วนของกระทรวงแรงงานไทย จะได้เยียวยาประมาณ 4 หมื่นบาท แต่เนื่องจากเป็นการไปทำงานในต่างประเทศ จึงจะไม่ได้รับความคุ้มครองตามสิทธิ์ประกันสังคม