ต่างประเทศ

สื่อต่างชาติรายงาน สงครามโฆษณาชวนเชื่อระอุระหว่างไทย-กัมพูชา

10 ชั่วโมงที่แล้ว

748 views

เว็ปไซต์ข่าวเอเชียนิวส์ รายงานว่า (AsiaNews) สงครามชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งเริ่มต้นเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลง  ซึ่งนอกเหนือจากการสู้รบแล้ว ทั้งไทยและกัมพูชายังดำเนินสงครามโฆษณาชวนเชื่อควบคู่กันไป ซึ่งเห็นได้ชัดจากจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการจากการปะทะกันสิบวัน อย่างเป็นทางการ มีรายงานผู้เสียชีวิตเพียง 30 รายเท่านั้น ซึ่งเป็นตัวเลขที่ควรพิจารณาอย่างระมัดระวัง


รายงานระบุว่า ทางฝั่งไทย หลังจากมีการประกาศผู้เสียชีวิตพลเรือนรายแรกไป เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ตัวเลขรวมจึงอยู่ที่ 16 ราย ขณะที่กัมพูชารายงานว่ามีพลเรือนเสียชีวิต 15 ราย เท่านั้น แต่ไม่มีการสูญเสียทางทหาร ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ เนื่องจากกองทัพอากาศไทยได้ปฏิบัติการลึกเข้าไปในดินแดนกัมพูชาแล้ว


สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนทั้งสองฝั่งชายแดน คือ ผู้คนหลายแสนคนที่ต้องพลัดถิ่นจากบ้านเรือนเนื่องจากการปะทะกันครั้งล่าสุด โดยทางการกัมพูชารายงานว่ามีผู้คน 423,000 คนอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงฉุกเฉินในจังหวัดพระวิหาร อุดรมีชัย บันเตียเมียนเจย พระตะบอง เกาะกง และเสียมเรียบ ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาเรียกว่าเป็น "วิกฤตผู้ลี้ภัยที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สมัยเขมรแดง"


ท่ามกลางการระดมพลครั้งใหญ่ นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา และภรรยา ได้เรียกร้องให้บรรดาผู้นำลูกเสือกัมพูชาปลูกผักทั่วประเทศเพื่อเลี้ยงดูผู้ที่อพยพ


ขณะเดียวกัน ทางด้าน ที่ทางด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศไทยกล่าวว่า  “ในฐานะผู้รุกรานดินแดนไทย กัมพูชาต้องประกาศหยุดยิงก่อน”  พร้อมเรียกร้องให้กัมพูชาร่วมมือ “อย่างจริงใจ” ในปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน แต่ทางด้าน  สื่อท้องถิ่นในกัมพูชากล่าวโทษไทยว่าเป็นฝ่ายรุกราน โดยเน้นย้ำถึงช่องว่างระหว่างกองทัพที่ทรงพลังของกรุงเทพฯ กับกองทัพของกัมพูชาที่ “เล็กกว่า”



ขณะเดียวกัน ทางด้าน สื่อไทยเองก็รายงานข่าวเกี่ยวกับการมีอยู่ของทหารรับจ้างชาวรัสเซียปะปนอยู่ในกองทัพกัมพูชา ซึ่งทำให้สถานทูตรัสเซียในพนมเปญและกรุงเทพฯ รีบออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ โดยอ้างว่ารัสเซียรักษา "ความสัมพันธ์ฉันมิตร" กับทั้งสองประเทศและสนับสนุนการแก้ไขข้อพิพาทชายแดนอย่างสันติ



รายงานระบุว่า โดยทั่วไปแล้ว ในขณะที่กัมพูชากำลังพูดถึงสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น แต่รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกุล ซึ่งกำลังหาเสียงเพื่อจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พยายามสร้างภาพลักษณ์ของประเทศที่กำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างปกติสุข แม้จะมีข้อขัดแย้งชายแดนอยู่ก็ตาม อย่างเช่น "แม้จะปิดด่านชายแดนกับกัมพูชาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม แต่มูลค่าการส่งออกของไทยในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้เติบโตขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว"



ในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวเองก็ระบุว่า “ไม่มีนักท่องเที่ยวรายใดที่ยกเลิกแผนการเดินทางท่องเที่ยวใน แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย กระบี่ และชลบุรี"


https://youtu.be/2UhWsfFE7o8

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ