ต่างประเทศ
สหรัฐฯขอ 2 สัปดาห์พิจารณา จะถล่มอิหร่านหรือไม่
โดย petchpawee_k
20 มิ.ย. 2568
252 views
สหรัฐฯ ขอ 2 สัปดาห์พิจารณจะถล่มอิหร่านหรือไม่ ลุ้นทรัมป์จะสั่งใช้ระเบิดคลัสเตอร์บอมบ์ 3 หมื่นปอนด์ ถล่มโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน
รัฐบาลสหรัฐฯ แถลงว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ทำเนียบขาวยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จะตัดสินใจภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ ว่าจะเปิดฉากโจมตีทางทหารต่ออิหร่านเพื่อทำลายศักยภาพด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านหรือไม่
การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่อิสราเอลและอิหร่านยิงขีปนาวุธและโจมตีด้วยโดรนเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน แม้ว่าจะยังมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น แต่กระนั้น ทางดาน นาง แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว ได้แถลงว่า ประธานาธิบดียังคงมีความหวังว่าภูมิภาคนี้จะหาข้อยุติทางการทูตได้
ทั้งนี้ ทรัมป์เรียกทีมความมั่นคงแห่งชาติของเขาเข้าห้องประชุมสถานการณ์ของทำเนียบขาวเป็นครั้งที่ 3 ในรอบไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยรายงานระบุว่า ทรัมป์เขากำลังพิจารณาว่าจะใช้ระเบิด 'บังเกอร์บัสเตอร์' น้ำหนัก 30,000 ปอนด์โจมตีโรงงานนิวเคลียร์ใต้ดินลึก 1 ไมล์ของอิหร่านหรือไม่ ซึ่งระเบิดดังกล่าวมีศักยภาพสูงมากในการทำลายล้างบังเกอร์ใต้ดิน
นางลีวิตต์ ยังได้ได้เปิดเผยคำพูดโดยตรงจากประธานาธิบดีที่กล่าวว่า "จากข้อเท็จจริงที่ว่ามีโอกาสอย่างมากที่การเจรจาจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นกับอิหร่านในอนาคตอันใกล้นี้ ผมจะตัดสินใจว่าจะไปหรือไม่ภายในสองสัปดาห์ข้างหน้า"
ลีวิตต์กล่าวว่าเธอนำข้อความดังกล่าวมาแจ้งให้สื่อมวลชนทราบเนื่องจากมีการคาดเดาเกี่ยวกับการตัดสินใจของทรัมป์ที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรงในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน และย้ำว่า “ประธานาธิบดีได้กล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าทรัมป์เชื่อว่ายังมีโอกาสที่อิหร่านจะกลับมาที่โต๊ะเจรจาอีกครั้ง “ และ ว่า “ประธานาธิบดีสนใจในการแก้ปัญหาทางการทูตอยู่เสมอ แต่เขาก็ไม่กลัวที่จะใช้กำลังเช่นกัน ขอให้ไว้วางใจประธานาธิบดีทรัมป์”
ทั้งนี้ อิสราเอลโจมตีสถานที่และผู้นำกองทัพของอิหร่านในเดือนนี้เพื่อพยายามป้องกันไม่ให้เตหะรานได้รับความสามารถในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ นับตั้งแต่การโจมตีเริ่มขึ้นในวันที่ 12 มิถุนายน ทรัมป์กำลังพิจารณาอยู่ว่าสหรัฐฯ จะเข้ามาเกี่ยวข้องและสนับสนุนอิสราเอลด้วยการโจมตีอิหร่านด้วยหรือไม่
ขณะเดียวกัน ทางด้าน พล.ต.ชโลมี บินเดอร์ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองอิสราเอล กล่าวปราศรัยต่อทหารอิสราเอล ว่ามีความจำเป็นต้องเพิ่มความเร็วในการโจมตีในอิหร่าน เนื่องจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่อิสราเอล "ไม่อาจรับมือได้"
เขากล่าวว่า "เมื่อสองวันก่อน เราได้โจมตีสำนักงานใหญ่ลับของพวกเขาในภูเขาได้สำเร็จ แต่ผู้บัญชาการบางคนสามารถหลบหนีไปยังสถานที่อื่นได้ สิบสองชั่วโมงต่อมา เราสามารถโจมตีหัวหน้าฝ่ายเสนาธิการ คาทัม อัล-อันบียา ซึ่งหลบหนีไปยังพื้นที่ภูเขาเดียวกัน แต่ในสันเขาอีกแห่งใกล้กับเตหะรานได้สำเร็จ ขอบคุณการทำงานที่ยอดเยี่ยมของหน่วยข่าวกรองและปฏิบัติการ"
เขาย้ำว่า "เราจำเป็นต้องส่งมอบให้มากกว่านี้อีกมาก เร่งดำเนินการให้เร็วขึ้น และนั่นคือสิ่งที่เรากำลังทำอยู่"
ขณะเดียวกัน ทางด้าน นาย อิสราเอล คัทซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล กล่าวว่า อญาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน "ไม่อาจจะดำรงอยู่ต่อไปได้"แล้ว อีกทั้ง คัทซ์ยังเปรียบเทียบคาเมเนอี กับอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เผด็จการนาซีที่ทำให้ชาวยิวเสียชีวิต 6 ล้านคน และตราหน้าคามาเนอีว่า "ฮิตเลอร์ยุคใหม่"
ขณะเดียวกัน ทางด้าน นาง มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ย้ำคำเตือนของรัสเซียถึงสหรัฐอีกครั้งว่าอย่าเข้าไปเกี่ยวข้องทางทหารในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน โดยกล่าวว่าการกระทำดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่คาดเดาไม่ได้
เธอกล่าวว่า "เราต้องการเตือนวอชิงตันเป็นพิเศษเกี่ยวกับการแทรกแซงทางทหารในสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งจะเป็นขั้นตอนที่อันตรายอย่างยิ่งและก่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงลบที่คาดเดาไม่ได้อย่างแท้จริง"
