กัมพูชาประกาศฟอร์มทีม คณะทำงานยื่นฟ้องคดีข้อพิพาทชายแดน ต่อศาลโลกแล้ว

ขแมร์ ไทม์ส สื่อกัมพูชา รายงานว่า กัมพูชาได้ก้าวสู่ขั้นตอนสำคัญครั้งแรกในการนำข้อพิพาทชายแดนเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีประกาศว่า รัฐบาลของเขาได้จัดตั้งคณะกรรมการระดับสูงเพื่อรวบรวมเอกสาร เพื่อรับผิดชอบในการนำคดีที่ยืดเยื้อนี้เข้าสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ


แม้ว่าไทยจะชอบใช้กลไกทวิภาคีเพื่อยุติข้อพิพาทชายแดนระหว่างสองประเทศ แต่รัฐบาลกัมพูชาได้ประกาศเมื่อเย็นวานนี้ว่า ได้จัดตั้งคณะกรรมการเตรียมเอกสารเพื่อยื่นฟ้องคดีต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เกี่ยวกับพื้นที่สามเหลี่ยมมรกตก ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย


ทั้งนี้ คณะกรรมการซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นาย ปรัก โสคน (Prak Sokhonn) เป็นประธาน จะมีอำนาจและความสามารถในการดำเนินการในนามของราชอาณาจักรกัมพูชาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งคณะกรรมการจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของกัมพูชาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ตั้งแต่ขั้นตอนการยื่นคำร้องจนถึงขั้นตอนการพิจารณาของศาลเสร็จสิ้น


คณะกรรมการยังได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบและตัดสินใจเลือกที่ปรึกษากฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อเป็นตัวแทนคดีที่กรุงเฮก เอกสารที่รวบรวมโดยกลุ่มงานด้านกฎหมายร่วมกับที่ปรึกษากฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อยื่นต่อศาลระหว่างประเทศ และงานที่ดำเนินการโดยกลุ่มงานด้านกิจการทูตตามความจำเป็น


ตามประกาศของรัฐบาล คณะกรรมการประกอบด้วยกลุ่มงานรองสองกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มงานด้านกฎหมาย ซึ่งนำโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นาย เกิต ริธ (Keut Rith) และกลุ่มงานด้านกิจการทูต ซึ่งนำโดย นาย เอต โสเพีย (Eat Sophea) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรม

ขณะเดียวกัน นาย เพ็ญ โบนา รัฐมนตรีผู้แทนนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าหน่วยโฆษกรัฐบาลกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์ต่อเรื่องนี้ว่า คณะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่พิจารณาและตัดสินใจคัดเลือกทนายความระหว่างประเทศเพื่อแก้ต่างคดี พิจารณาและตัดสินใจเกี่ยวกับเอกสารที่จะยื่นต่อศาล สื่อสารกับศาล และเป็นตัวแทนกัมพูชาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องสอดคล้องกับเจตจำนงอันเข้มแข็งของรัฐบาลกัมพูชา ตลอดจนเจตจำนงของประชาชนกัมพูชา ในการยื่นฟ้องทั้งสี่คดีนี้ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของเรา


คำร้องนี้ได้รับการสนับสนุนเป็นเอกฉันท์จากรัฐสภาและวุฒิสภา ตลอดจนจากประชาชนชาวกัมพูชาทั้งในและต่างประเทศ และจากกระแสการเมืองทุกรูปแบบ แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีของชาติกัมพูชา และกลายเป็นขบวนการสามัคคีอันยิ่งใหญ่ของชาติที่สนับสนุนรัฐบาลและกองทัพอันกล้าหาญของเรา นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงศรัทธาอันแรงกล้าและความอบอุ่นใจของชาวกัมพูชาที่มีต่อรัฐบาล


เขาระบุด้วยว่า แท้จริงแล้ว รัฐบาลกัมพูชาที่นำโดยสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรี และ สมเด็จธิบดี ฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ได้พยายามและตั้งใจอย่างสุดความสามารถที่จะปกป้องความสมบูรณ์ของดินแดนโดยไม่ปล่อยให้สูญเสียแม้แต่มิลลิเมตรเดียว ความมุ่งมั่นนี้ไม่ใช่แค่คำพูดเท่านั้น แต่เป็นการกระทำที่เป็นรูปธรรม การเจรจาเรื่องการกำหนดเขตแดนกับประเทศเพื่อนบ้านและการก่อสร้างถนนวงแหวนชายแดนที่รัฐบาลกัมพูชาได้ดำเนินการอยู่เป็นตัวอย่าง


ดังนั้นขอให้ชาวกัมพูชาใจเย็น อย่าใจร้อน และรอขั้นตอนต่อไปของรัฐบาล โดยยึดมั่นในทัศนคติที่เป็นอารยะ อดทน และใช้สติปัญญาแทนอารมณ์ โดยเฉพาะอย่ายอมจำนนต่อการยุยงของกลุ่มหัวรุนแรงในบริเวณใกล้เคียงที่ต้องการดินแดนของเรา โปรดพิจารณาข้อความของประธานาธิบดีในวันนี้ ซึ่งเขาได้ยกคำพูดของนักวิชาการจีนผู้ยิ่งใหญ่ เหล่าจื๊อ และเขียนบนเฟซบุ๊กว่า ใจเย็น ๆ จดจ่อกับเป้าหมายใหญ่เสมอ และเมื่อมีโอกาสก็อย่าลังเลที่จะโจมตี

https://youtu.be/dI1xSa24Gb4