รัฐบาลสหรัฐฯเล็งยื่นต่อศาลฎีกาวันนี้ หลังถูกศาลการค้าสกัดการขึ้นภาษีทรัมป์

ซีเอ็นบีซี สื่อเศรษฐกิจของสหรัฐรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐภายใต้การบริหารของ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่าอาจขอให้ศาลฎีกาของสหรัฐ  ระงับคำตัดสินของศาลการค้าในวันศุกร์นี้ทันทีเพื่อระงับคำสั่งให้รัฐบาลหยุด การใช้นโยบายขึ้นภาษีศุลกากรต่อประเทศคู่ค้า

โดยในคำร้องต่อศาลอุทธรณ์สหรัฐฯเมื่อเช้าวันพฤหัสบดีระบุว่า รัฐบาลจะขอ “ความช่วยเหลือฉุกเฉิน” จากศาลสูงสุดของประเทศ “เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อความมั่นคงของชาติและเศรษฐกิจที่ไม่อาจแก้ไขได้”  แต่กระนั้นการยื่นเรื่องต่อศาลสูงสุดดังกล่าวจะเกิดขึ้นต่อเมื่อ ศาลอุทธรณ์กลางไม่ระงับคำตัดสินดังกล่าว

โดยทางด้าน นาง แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวได้แถลงต่อเรื่องนี้ว่า “ศาลฎีกาต้องยุติเรื่องนี้” และยังได้กล่าวโจมตีผู้พิพากษา 3 คนของศาลการค้าที่สั่งยกเลิกภาษีศุลกากรแบบตอนโต้ของทรัมป์อย่างรุนแรง และเธอยังกล่าวว่า ผู้พิพากษาได้ “ใช้อำนาจตุลาการในทางที่ผิดอย่างหน้าด้านๆ เพื่อแย่งชิงอำนาจของประธานาธิบดีทรัมป์ เพื่อหยุดไม่ให้เขาปฏิบัติตามคำสั่งที่ประชาชนชาวอเมริกันมอบให้เขา” และว่า “ผู้พิพากษาเหล่านี้กำลังคุกคามที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ บนเวทีโลก”

ทั้งนี้ ศาลการค้าของสหรัฐได้มีคำตัดสินเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ใช้อำนาจเกินขอบเขตหน้าที่ โดยะบุว่า รัฐธรรมนูญสหรัฐ มอบอำนาจพิเศษแก่รัฐสภาในการควบคุมการค้ากับประเทศอื่นๆ ที่ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของอำนาจฉุกเฉินของประธานาธิบดีในการปกป้องเศรษฐกิจสหรัฐ

คณะผู้พิพากษา 3 คนระบุในคำตัดสินว่า “ศาลไม่ตัดสินว่าการใช้ภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีเพื่อกดดันนั้น จะมีความฉลาดหรือมีประสิทธิภาพหรือไม่ แต่การใช้ในลักษณะดังกล่าวถือว่าไม่สามารถยอมรับได้ ไม่ใช่เพราะไม่ฉลาดหรือไม่มีประสิทธิผล แต่เพราะ [กฎหมายของรัฐบาลกลาง] ไม่อนุญาต”  

ทั้งนี้คำสั่งของศาลดังกล่าวจะระงับการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน 30% ของทรัมป์  ระงับการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภทที่นำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา 25% และ ระงับภาษีนำเข้าสินค้าทั่วไป 10% สำหรับสินค้าส่วนใหญ่ที่นำเข้ามาสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม คำสั่งดังกล่าวไม่ส่งผลต่อการขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ เหล็กหรืออลูมิเนียม 25% ซึ่งอยู่ภายใต้มาตรา 232 ของพระราชบัญญัติการขยายการค้า ซึ่งเป็นกฎหมายคนละฉบับกับกฎหมายที่ทรัมป์อ้างถึงในการดำเนินมาตรการทางการค้าอื่นๆ

https://youtu.be/lp1hXc1JrjU