ศาลสหรัฐฯเริ่มไต่สวน 12 รัฐยื่นฟ้องรัฐบาล 'ทรัมป์' ละเมิดอาจขึ้นภาษีศุลกากร

เมื่อวานนี้ ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ (US court of International Trade)   ได้เปิดการไต่สวนคดีเป็นครั้งแรก หลังจากที่ที่รัฐต่างๆ ของสหรัฐ จำนวน 12 รัฐได้ยื่นฟ้องต่อรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในคดีการประกาศใช้ "ภาษีศุลกากรที่ผิดกฎหมาย"   โดยคณะผู้พิพากษา 3 คนของศาลได้ฟังข้อโต้แย้งและซักถามทั้งสองฝ่าย

ทั้งนี้ อัยการสูงสุด ของรัฐแอริโซนา โคโลราโด คอนเนตทิคัต เดลาแวร์ อิลลินอยส์ เมน มินนิโซตา เนวาดา นิวเม็กซิโก นิวยอร์ก โอเรกอน และเวอร์มอนต์ ได้ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 23 เมษายน เพื่อขอคำสั่งศาลเพื่อห้ามรัฐบาลของทรัมป์ไม่ให้บังคับใช้ "ภาษีศุลกากรแบบตอบโต้" ที่ทรัมป์ประกาศเมื่อวันที่ 2 เมษายน

นาย ไบรอัน มาร์แชลล์ ทนายความจากโอเรกอน ได้โต้แย้งในนามของรัฐต่างๆ ว่าทรัมป์ใช้พระราชบัญญัติอำนาจทางเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ (IEEPA) อย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งบัญญัติขึ้นในปี 1977  ซึ่งตามกฎหมายดังกล่าวระบุว่า เหตุฉุกเฉินเกิดจาก "ภัยคุกคามที่ไม่ธรรมดาและเหนือธรรมดา" ต่อสหรัฐ  แต่ทว่าการขาดดุลการค้าไม่เป็นไปตามข้อกำหนดนั้น  พร้อมเสริมว่ารัฐบาลทรัมป์กำลังใช้ภาษีศุลกากรเป็นเครื่องมือต่อรอง ซึ่งบ่งชี้ว่าสหรัฐ  ไม่ได้อยู่ในภาวะฉุกเฉิน

ทั้งนี้ รัฐบาลทรัมป์อ้างว่าภาษีศุลกากรใช้เพื่อควบคุมการค้าระหว่างประเทศ โดยให้เหตุผลว่าประธานาธิบดีมีอำนาจในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและประกาศมาตรการต่างๆ และมีเพียงรัฐสภาเท่านั้น ไม่ใช่ศาล ที่จะตัดสินได้ว่าเหตุผลของประธานาธิบดีในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินสอดคล้องกับกฎหมายหรือไม่

ขณะที่ทางด้าน แดน เรย์ฟิลด์ อัยการสูงสุดของรัฐโอเรกอนกล่าวว่า  ภาษีศุลกากรของทรัมป์จะทำให้ค่าครองชีพของครอบครัวชาวอเมริกันสูงขึ้นโดยเฉลี่ย 3,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีทีเดียว

https://youtu.be/ZcMQxWn_KBc