'ทรัมป์' เผยอาจคุยตรง 'สี จิ้นผิง' ปลายสัปดาห์นี้ หลังสองฝ่ายยอมลดภาษี

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวต่อผู้สื่อข่าวหลังจากที่การเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ประสบผลสำเร็จทั้งสองฝ่าย ยอมลดภาษีศุลกากรตอบโต้ระหว่างกันลงมากกว่า 100% โดยทรัมป์กล่าวว่า เขาอาจจะคุยตรงกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในช่วงปลายสัปดาห์นี้


ทรัมป์กล่าวว่า การเจรจาที่เจนีวาเป็นไปอย่างเป็นมิตรมาก ความสัมพันธ์ดีมาก เราไม่ได้ต้องการทำร้ายจีน จีนได้รับผลกระทบอย่างหนัก พวกเขาปิดโรงงาน พวกเขามีความไม่สงบมากมาย และพวกเขามีความสุขมากที่สามารถทำอะไรบางอย่างกับเราได้ และความสัมพันธ์ก็ดีมาก ผมจะคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ เรามีบางอย่างที่เรากำลังทำอยู่


ทรัมป์ยังบอกด้วยว่า พวกเขาตกลงที่จะเปิดประเทศ เปิดประเทศจีนอย่างเต็มรูปแบบ และผมคิดว่ามันจะยอดเยี่ยมมากสำหรับจีน ผมคิดว่ามันจะยอดเยี่ยมมากสำหรับเรา และผมคิดว่ามันจะยอดเยี่ยมมากสำหรับความสามัคคีและสันติภาพ


ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ สหรัฐฯ และจีน ได้ตกลงที่จะลดภาษีตอบโต้ระหว่างกันลงเป็นเวลา 90 วัน ซึ่งภาษีศุลกากรตอบโต้ระหว่างสหรัฐฯ และจีน นั้นต่างฝ่ายจะลดภาษีลงระหว่างกัน 115% คือจากเดิมที่ 125% ลงเหลือ 10% อย่างไรก็ตาม อัตราภาษีศุลกากรอีก 20% ของสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บจากจีนสำหรับการนำเข้าสินค้าจากจีนที่เกี่ยวข้องกับสารเฟนทานิลจะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป


นั่นหมายความว่าภาษีศุลกากรที่สหรัฐฯจะเรียกเก็บจากจีนนั้นจะลดจาก 125% มาอยู่ที่ 10% และรวมเข้ากับภาษีสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสารเฟนทานิลอีก 20% ทำให้ภาษีที่สหรัฐฯจะเรียกเก็บจากจีนนั้นเหลืออยู่ที่ 30% จากเดิมที่ 145% ทั้งนี้ โครงสร้างภาษีเดิมที่สหรัฐฯเรียกเก็บจากจีนคือภาษีตอบโต้ 125% บวกเข้ากับภาษีสินค้าเฟนทานีล 20% รวมเป็นทั้งสิ้น 145% ขณะที่จีนจะเรียกเก็บภาษีจากสหรัฐฯเหลือ 10% จากทั้งหมด 125% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันพุธนี้


ความก้าวหน้าดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ตัวแทนการค้าของสหรัฐฯ และจีน ได้จัดการเจรจาที่มีผลประโยชน์สูงในสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนาย สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ กล่าวในการแถลงข่าวว่า เราได้มีการเจรจาที่มีประสิทธิผลมาก และฉันเชื่อว่าสถานที่ซึ่งอยู่ที่เจนีวาแห่งนี้ได้ทำให้กระบวนการนี้เป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น


เราได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการหยุดเจรจา 90 วัน และได้ลดระดับภาษีศุลกากรลงอย่างมาก ทั้งสองฝ่าย ในภาษีศุลกากรแบบแลกเปลี่ยนจะลดอัตราภาษีศุลกากรลง 115%


จากความเคลื่อนไหวดังกล่าว ทำให้เงินดอลลาร์ของสหรัฐฯแข็งค่าขึ้น และตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้น โดย ตลาดหุ้นสหรัฐฯตอบรับข่าวดีนี้อย่างร้อนแรง โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับขึ้นไปถึง 1,160.72 จุด หรือ +2.81% ปิดที่ 42,410.1 จุด แนสแดก ปรับขึ้น 779.43 จุด หรือ +4.35% ปิดที่ 18,708.34 จุด และ เอสแอนด์พี-500 ปรับขึ้น 184.28 จุด หรือ +3.26% ปิดที่ 5,844.19 จุด


อย่างไรก็ตาม ยังมีนักวิเคราะห์บางรายที่ไม่รู้สึกยินดีกับควาาเคลื่อนไหวครั้งนี้นัก โดยเห็นว่าแม้ว่าสหรัฐฯจะลดอัตราภาษีให้กับจีน แต่ 30% นั้นก็ยังสูงอยู่ และภาคธุรกิจยังต้องการความชัดเจนมากกว่านี้หลังจากผ่าน 90 วันไปแล้ว


มาร์คัส โนแลนด์ ผู้อำนวยการฝ่ายศึกษาของสถาบันเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ปีเตอร์รออน กล่าวว่า สถานการณ์ได้ก้าวผ่านจากระดับปกติ ไปสู่ระดับเลวร้าย แม้ว่านักลงทุนจะแสดงความยินดีกับการเปลี่ยนแปลงล่าสุด  แต่ธุรกิจต่าง ๆ กลับลังเลใจมากขึ้น เพราะแม้ว่าจะโล่งใจ แต่ก็ต้องการความชัดเจนมากขึ้น


และว่า สถานการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเลวร้ายมาก ซึ่งส่งผลให้เกิดการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานไปแล้ว ซึ่งก็เหมือนกับการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ภาษีศุลกากร 30% จึงยังถือว่าเป็นภาษีที่สูง แต่กระนั้นก็เป็นภาษีศุลกากรที่มีความยืดหยุ่นในระดับหนึ่งและจะช่วยให้ชีวิตดำเนินต่อไปได้บ้าง แม้ว่าราคาจะสูงขึ้น และอาจมีความไม่แน่นอนและล่าช้ามากขึ้นก็ตาม

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/G-WaPxItsiQ