คะแนนนิยมด้านเศรษฐกิจของ 'ทรัมป์' ดิ่งเหว คนไม่พอใจ ขึ้นภาษีมั่ว-เงินเฟ้อ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นแท่นประธานาธิบดีที่มีคะแนนนิยมทางเศรษฐกิจต่ำที่สุดตลอดอาชีพการงาน ท่ามกลางความไม่พอใจอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการจัดการภาษีศุลกากร อัตราเงินเฟ้อ และการใช้จ่ายของรัฐบาล


โดยผลสำรวจด้านเศรษฐกิจ ออล อเมริกา (All-America) ล่าสุดของซีเอ็นบีซี พบว่า การมองในแง่ดีทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นซึ่งมาพร้อมกับการเลือกตั้งซ้ำของทรัมป์นั้นได้หายไปแล้ว โดยชาวอเมริกันจำนวนมากขึ้นเชื่อว่าเศรษฐกิจจะแย่ลงกว่าที่เคยเป็นมาตั้งแต่ปี 2023 และหันไปมองในแง่ร้ายต่อตลาดหุ้นแทน


ผลสำรวจชาวอเมริกัน 1,000 คน ทั่วประเทศ แสดงให้เห็นว่า 44% เห็นด้วยกับการจัดการของทรัมป์ต่อตำแหน่งประธานาธิบดี และ 51% ไม่เห็นด้วย ทั้งนี้การสำรวจความคิดเห็นจัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 9 ถึง 13 เมษายน และมีค่าความคลาดเคลื่อนอยู่ที่ +/-3.1%


ภาษีศุลกากรดูเหมือนจะเป็นส่วนสำคัญของความไม่พอใจของประชาชนโดยรวม โดยชาวอเมริกันไม่เห็นด้วยกับภาษีศุลกากรแบบเหมารวมด้วยคะแนนเสียง 49 ต่อ 35 และเสียงส่วนใหญ่เชื่อว่าภาษีศุลกากรส่งผลเสียต่อคนงานชาวอเมริกัน เงินเฟ้อ และเศรษฐกิจโดยรวม


โดยผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตไม่เห็นด้วยต่อภาษีศุลกากร ด้วยคะแนนเสียง 83% และผู้ที่ไม่สังกัดพรรคการเมืองด้วยคะแนนเสียง 26% ขณะที่ผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันเห็นชอบกับภาษีศุลกากรด้วยคะแนน 59% คะแนน ซึ่งต่ำกว่าคะแนนเสียงสุทธิ 79% ที่พวกเขาเห็นชอบประธานาธิบดีถึง 20%


นอกจากนั้น ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เห็นว่าแคนาดา เม็กซิโก สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น เป็นโอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับสหรัฐอเมริกา มากกว่าจะเป็นภัยคุกคามทางเศรษฐกิจ ส่วนตัวเลขที่แย่ที่สุดของประธานาธิบดีมาจากการจัดการกับเงินเฟ้อ ซึ่งประชาชนไม่เห็นด้วยด้วยส่วนต่าง 37% ต่อ 60% และประชาชนยังไม่เห็นด้วยกับการจัดการการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางของประธานาธิบดี ด้วยคะแนน 45% ต่อ 51% และนโยบายต่างประเทศ ด้วยคะแนน 42% ต่อ 53%


ในขณะเดียวกัน ชาวอเมริกันมีทัศนคติเชิงลบต่อตลาดหุ้นมากกว่าที่เคยเป็นมาในรอบ 2 ปี โดย 53% บอกว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมที่จะลงทุน และมีเพียง 38% เท่านั้นที่บอกว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี


ขณะเดียวกัน บิสสิเนส อินไซเดอร์ รายงานว่า นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำหลายสิบคน รวมถึงผู้ได้รับรางวัลโนเบล 2 คน ได้ลงนามในคำประกาศที่วิจารณ์นโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์


คำประกาศดังกล่าวซึ่งเรียกนโยบายภาษีศุลกากรว่า ไร้ทิศทาง และเตือนว่าอาจทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดจากตัวเขาเอง ได้รับการลงนามโดยนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำมากกว่า 1,000 คน โดยคำประกาศดังกล่าวยังเตือนด้วยว่า ระยะเวลาในการลบล้างนโยบายที่ไม่สอดคล้องและสร้างความเสียหาย ของรัฐบาลทรัมป์เกี่ยวกับการค้านั้นใกล้จะแคบลง


นอกจากนั้น ผู้ลงนามวิพากษ์วิจารณ์ภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ ว่าเป็นการคำนวณโดยใช้สูตรที่ผิดพลาดและไม่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แท้จริง