รัสเซียยืนยัน 'บาชาร์ อัล-อัสซาด พร้อมครอบครัว' ลี้ภัยไปมอสโก หลังกบฎบุกยึดซีเรีย

สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ ของรัสเซีย รายงานอ้างแหล่งข่าวจากรัฐบาลรัสเซียว่า ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย และครอบครัว เดินทางมาถึงรัสเซียแล้ว  และได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยทางการเมืองจากทางการรัสเซีย โดย ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย เดินทางมาถึงมอสโกแล้ว รัสเซียให้สิทธิ์ลี้ภัยแก่พวกเขา โดยให้เหตุผลด้านมนุษยธรรม และ กระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย กำลังติดตามเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นในซีเรีย ด้วยความกังวลอย่างยิ่ง     

รายงาน ระบุด้วยว่า บาชาร์ อัล-อัสซาด ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี และออกจากประเทศ และกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในความขัดแย้ง และแก้ไขปัญหาทั้งหมดด้วยวิธีการทางการเมือง และเคารพความคิดเห็นของทุกกลุ่มชาติพันธุ์ และศาสนา ในสังคมซีเรีย  และมอสโกได้ติดต่อกับกลุ่มต่อต้านซีเรียทั้งหมด และสนับสนุนความพยายามในการสร้างกระบวนการทางการเมืองที่ครอบคลุม

ทั้งนี้ ประชาชนชาวซีเรียจำนวนมากต่างออกมาชุมนุมตามท้องถนนในกรุงดามัสกัส  แสดงความยินดีด้วยการตะโกนโห่ร้อง-ยิงปืนขึ้นฟ้า หลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดี บะชาร์ อัล-อัซซาด ถูกโค่นล้มโดยกลุ่มแข็งข้อต่อต้าน ยุติการครองอำนาจเผด็จการยาวนาน 50 ปี ของครอบครัวนี้

ฝูงชนต่างรวมตัวกันที่จตุรัสต่าง ๆ ในเมืองหลวงของซีเรีย โบกธงสัญลักษณ์ดาวสามดวงซึ่งเป็นธงของการปฏิวัติในซีเรีย ในช่วงเริ่มต้นของเหตุการณ์การลุกฮือของประชาชนที่เรียกว่า 'อาหรับสปริง' เมื่อกว่า 10 ปีก่อน ที่สิ้นสุดด้วยการปราบปรามอย่างรุนแรงของรัฐบาลอัซซาด และทำให้ประเทศก้าวเข้าสู่สงครามกลางเมืองที่กินเวลากว่า 14 ปี

โดยวิดีโอของผู้เห็นเหตุการณ์ จับภาพนักโทษที่ต้องสงสัยว่า ได้รับการปล่อยตัวกำลังวิ่งเล่น และเฉลิมฉลองบนท้องถนนในกรุงดามัสกัสไม่นาน หลังจากกลุ่มกบฏซีเรียขับไล่ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ออกไป

มีภาพที่จะเห็นว่าประชาชนในซีเรียกำลังล้มรูปปั้นของอดีตประธานาธิบดี ฮาเฟซ อัล-อัสซาด ซึ่งเขาเป็นพ่อของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด

ทั้งนี้ การโค่นอำนาจของรัฐบาล บาชาร์ อัล-อัสซาด เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างน่าตกใจ เมื่อกลุ่มแข็งข้อต่อต้านที่นำโดยกลุ่มติดอาวุธ "ฮายัต ทาห์เรีย อัล-ชาม"  หรือ HTS (Hayat Tahrir al-Sham) สามารถยึดเมืองอเลปโป เมืองฮามา และเมืองฮอมส์ ได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน ซึ่งกลุ่ม HTS นั้น มีจุดกำเนิดมาจาก อัลกออิดะห์ ซึ่งทั้งสหรัฐฯ และสหประชาชาติ ต่างระบุว่า กลุ่มติดอาวุธนี้เป็นกลุ่มก่อการร้าย

การพังทลายของระบอบอัซซาดยังถือเป็นผลเสียใหญ่หลวงต่ออิหร่านซึ่งเป็นผู้สนับสนุน และพันธมิตรรายสำคัญของซีเรีย ในตะวันออกกลาง ในช่วงเดียวกับที่กำลังเกิดการสู้รบระหว่างกลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่มที่อิหร่านสนับสนุน เช่น ฮามาส และ เฮซบอลเลาะห์ กับอิสราเอล

อาบู โมฮัมเหม็ด อัล-กอลานี วัย 42 ปี ผู้ที่ทางการสหรัฐฯ ระบุว่า เป็นผู้ก่อการร้าย คือผู้นำกลุ่มเอชทีเอส HTS ที่อาจก้าวขึ้นมากำหนดทิศทางของซีเรียหลังจากนี้นั้น เขาเป็นอดีตผู้บัญชาการของกลุ่มอัลกออิดะห์ด้วย โดยกลุ่มเอชทีเอสได้เผยแพร่วิดีโอทางสื่อโทรทัศน์ในซีเรีย ระบุว่า "ระบอบการปกครองของอาชญากรล่มสลายแล้ว" และนักโทษทุกคนได้รับอิสระ พร้อมขอให้ประชาชนช่วยกันรักษาความเป็น 'รัฐซีเรียอิสระ' เอาไว้ จากนั้น มีการประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวในกรุงดามัสกัสระหว่างเวลา 16:00 น. - 5:00 น.

ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ในซีเรียเป็นมุสลิม นิกายสุหนี่ ซึ่งแตกต่างจากครอบครัวอัสซาด ซึ่งนับถือนิกายอะละวี ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของนิกายชีอะห์ นอกจากนี้ ยังมีประชากรบางส่วนที่เป็นชาวคริสต์ ชาวเคิร์ด และชาวดรูซด้วย