ฟิลิปปินส์ อัปเดตยอดผู้เสียชีวิตเป็น 8 คน - พายุ 'หม่านหยี่' อ่อนกำลังมุ่งหน้าสู่เวียดนาม

ฟิลิปปินส์เร่งเคลียร์ต้นไม้ที่ล้มขวางถนน และซ่อมแซมบ้านเรือน ที่เสียหายจาก 'ซูเปอร์ไต้ฝุ่น หม่านหยี่' ที่เป็นพายุใหญ่ลูกที่ 6 ที่ถล่มแดนตากาล็อก ในรอบเดือนนี้ และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน ล่าสุด ไต้ฝุ่นลูกนี้อ่อนกำลังลงเป็นพายุหมุนเขตร้อนขณะเคลื่อนออกจากฟิลิปปินส์เข้าสู่ทะเลจีนใต้ มุ่งหน้าไปยังเวียดนาม

วานนี้ ประธานาธิบดี เฟอร์ดินันด์ มาร์กอส แถลงว่า สถานการณ์ไม่เลวร้ายอย่างที่กลัวกัน ผู้นำฟิลิปปินส์ เสริมว่า รัฐบาลกำลังเร่งกู้ภัยพื้นที่ที่ถูกตัดขาด และบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย

ทั้งนี้ ซูเปอร์ไต้ฝุ่นลูกนี้มีความเร็วลมสูงสุดคงที่ 185 กม./ชม. และลมกระโชก 230 กม.ต่อ ชม. หลังขึ้นฝั่งที่เกาะคาตันดัวเนส เมื่อคืนวันเสาร์ที่16 พ.ย. 2567 และเกาะลูซอน ในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ทำให้ต้นไม้-เสาไฟฟ้ามากมายล้มระเนระนาด บ้านไม้พัง และดินถล่ม แต่ไม่มีน้ำท่วมรุนแรง

รายงานระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นลูกนี้อย่างน้อย 8 คน ที่รวมถึงชายวัย 79 ปีที่จักรยานยนต์ชนเสาไฟฟ้า และอีก 7 คน เสียชีวิตจากเหตุดินถล่มฝังบ้านในจังหวัดนูเอวา วิซคายา ในลูซอน

คามิลล์ เกียนัน เจ้าหน้าที่ข้อมูลจังหวัดคาตันดัวเนสเผยว่า หม่านหยี่ทำให้เสาไฟฟ้ามากมายล้ม ซึ่งอาจส่งผลให้ไฟฟ้าดับนานหลายเดือน และเสริมว่า ประชาชนต้องการอาหาร ชุดผลิตภัณฑ์สุขอนามัย และวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากบ้านส่วนใหญ่ที่สร้างจากวัสดุที่ไม่แข็งแรงพังราบเป็นหน้ากลอง ขณะที่บ้านปูนบางหลัง หลังคา ประตู และหน้าต่างเสียหาย

ขณะที่ ล่าสุด เมื่อวันจันทร์ หม่านหยี่อ่อนกำลังลงเป็นพายุหมุนเขตร้อนที่มีความรุนแรง ขณะเคลื่อนผ่านภูเขาในลูซอน และเข้าสู่ทะเลจีนใต้ มุ่งหน้าไปยังเวียดนาม

ทั้งนี้ ในเดือนที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 171 คน ในฟิลิปปินส์ จากพายุ ประชาชนนับพันไม่มีที่อยู่อาศัย อีกทั้ง ยังทำลายพืชพันธุ์-ปศุสัตว์ โดยช่วงต้นเดือนนี้ พายุ 4 ลูก ก่อตัวขึ้นพร้อมกันบริเวณแอ่งแปซิฟิก ซึ่งสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นระบุว่า เป็นครั้งแรกที่ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนับ จากที่มีการบันทึกข้อมูลนี้เมื่อปี 1951