ฟิลิปปินส์หวั่นเหยื่อ 'พายุจ่ามี' พุ่งกว่า 140 ศพ ประชาชนราว 560,000 คน กลายเป็นคนไร้บ้าน

สถานการณ์ภัยพิบัติใน 'ฟิลิปปินส์' หลังเผชิญกับ 'พายุโซนร้อน จ่ามี' ซึ่งเคลื่อนตัวออกจากตอนเหนือของประเทศ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 100 ราย และหน่วยกู้ภัยยังเร่งค้นหาผู้ประสบภัยที่ยังสูญหายอีก 36 ราย

ด้านประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ผู้นำฟิลิปปินส์ เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายในจังหวัดบาตังกัส พร้อมแถลงว่า ปัญหาคือหลายพื้นที่ยังน้ำท่วม

ผู้นำฟิลิปปินส์ กล่าวว่า “เรามีระบบควบคุมน้ำท่วม แต่ด้วยปริมาณน้ำมหาศาล จึงไม่สามารถจัดการได้ นี่คือผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องใหม่ ดังนั้น เราต้องหาวิธีแก้ไขใหม่ ๆ เช่นกัน”

ทั้งนี้ รายงานระบุว่า ผู้เสียชีวิตในจังหวัดบาตังกัสที่ได้รับการยืนยันแล้ว มีอย่างน้อย 55 ราย เขตบีโคลมีผู้เสียชีวิต 38 ราย จังหวัดคาวีเตมีผู้เสียชีวิต 2 ราย รายหนึ่งถูกไฟดูดและอีกรายเสียชีวิตเพราะจมน้ำ ส่วนผู้เสียชีวิตที่เหลือ 5 รายเป็นเหยื่อในจังหวัดใกล้เคียง

ขณะที่หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ประชาชนราว 560,000 คน กลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัยเพราะบ้านเรือนพังเสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วม และดินถล่ม

ขณะเดียวกัน เกิดเหตุสลดขึ้น เมื่อ เดจูคอส คุณพ่อลูก 5 ต้องสูญเสียลูกทั้งหมด 5 คน และภรรยาอีก 1 คน จากเหตุดินถล่มบ้านของเขา โดย เดจูคอส กล่าวว่า “ผมได้ขุดพบศพภรรยาของผม ในขณะนั้นเธอกำลังให้นมลูกคนเล็กอยู่ จากนั้น ผมก็ขุดศพลูกชายของผมอีกสองคน จากนั้นก็พบลูกสาว และลูกชายอีกสองคน  ”

ทั้งนี้ โศกนาฏกรรมที่เมืองตาลิไซ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางใต้ประมาณ 70 กิโลเมตร ถือเป็นหนึ่งในหลายโศกนาฏกรรมที่เกิดจากพายุโซนร้อนจ่ามี ซึ่งเป็นพายุลูกที่ 11 และมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในปีนี้