ผู้นำอิสราเอลชี้ สังหารผู้นำเฮซบอลเลาะห์ เป็น 'จุดเปลี่ยนครั้งประวัติศาสตร์'

เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล กล่าวถึงการสังหาร ฮัสซัน นาสราลเลาะห์ ผู้นำสูงสุดของกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ จากการโจมตีทางอากาศในกรุงเบรุต ของเลบานอน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เป็น 'จุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์' ที่จะเปลี่ยนแปลงดุลอำนาจในตะวันออกกลาง

เนทันยาฮู กล่าวว่า อิสราเอลได้ 'ชำระแค้น' กับผู้ที่รับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของชาวอิสราเอลจำนวนนับไม่ถ้วน  และว่า การสังหารครั้งนี้ เป็นขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อบรรลุเป้าหมายของอิสราเอล ในการนำพลเมืองกลับบ้าน และเปลี่ยนแปลงดุลอำนาจในภูมิภาคในอีกหลายปีข้างหน้า

ขณะที่ทางด้าน ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้กล่าวว่า สหรัฐฯ สนับสนุนสิทธิของอิสราเอลในการปกป้องตนเองอย่างเต็มที่ และการโจมตีทางอากาศในกรุงเบรุตที่สังหาร นาสรัลเลาะห์ ถือเป็นการแก้แค้นต่อการเสียชีวิตของชาวอเมริกัน ชาวอิสราเอล และพลเรือนชาวเลบานอนหลายพันคน     

ไบเดน กล่าวด้วยว่า นัสรุลเลาะห์ยังให้การสนับสนุนกลุ่มฮามาส ในวันที่ก่อเหตุโจมตีภาคใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ปีที่แล้ว ที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสสังหารประชาชนไปราว 1,200 คน และลักพาตัวประกันไปประมาณ 250 คน นายไบเดนยังได้สั่งการให้ส่งกองกำลังทหารสหรัฐฯ เพิ่มเติมไปยังตะวันออกกลาง เพื่อพยายามป้องกันการตอบโต้จากอิหร่าน

การลอบสังหารศัตรูตัวฉกาจของอิสราเอลรายหนึ่งได้สร้างความตกตะลึงไปทั่วทั้งภูมิภาค และทำให้เกิดความกลัวว่าสงครามจะลุกลามไปสู่ขั้นรุนแรง โดยทางด้านอญาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้เรียกร้องให้ชาวมุสลิม ยืนหยัดเคียงข้างประชาชนชาวเลบานอน แต่ไม่ได้ขู่ว่าจะระดมกองกำลังของอิหร่าน