สวิสบุกทลาย-จับกุมผู้ต้องสงสัยเพียบ หลังมีการใช้ 'แคปซูลฆ่าตัวตาย' ครั้งแรกของโลก

ตำรวจสวิตเซอร์แลนด์ จับกุมผู้ต้องสงสัยหลายราย หลังเกิดเหตุมีหญิงชาวอเมริกัน ใช้แคปซูลปลิดชีพตัวเอง อันอื้อฉาว ในการจบชีวิตตัวเอง ถือเป็นการใช้งานแคปซูลมรณะนี้เป็นครั้งแรกของโลก


ตำรวจในรัฐชัฟเฮาเซิน ทางเหนือของสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยว่า พวกเขาจับกุมบุคคลหลายคน ในฐานะผู้ต้องสงสัย ยุยง ช่วยเหลือ และสนับสนุนให้เกิดการปลิดชีวิตตัวเอง หลังมีผู้จบชีวิตตัวเองด้วยแคปซูลฆ่าตัวตาย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา


แคปซูลดังกล่าวชื่อว่า ซาร์โก พ็อด (Sarco pod) คิดค้นโดย นาย ฟิลิป นิตช์เก ผู้อำนวยการองค์กรไม่แสวงกำไร ชื่อว่า เอ็กซิต อินเตอร์เนชั่นแนล มีลักษณะคล้ายโลงศพล้ำยุค สั่งการโดยปุ่มที่อยู่ภายใน โดยมันจะแทนที่ออกซิเจนในเครื่องด้วยแก๊สไนโตรเจน จนทำให้ผู้ที่อยู่ภายในหมดสติ ก่อนจะเสียชีวิตด้วยภาวะพร่องออกซิเจน (hypoxia) ภายใน 10 นาที เท่านั้น


โดยเมื่อเข้าไปในเครื่องแล้ว ผู้ที่อยู่ภายในจะได้ยินข้อความดังขึ้นว่า "ถ้าคุณต้องการตาย ให้กดปุ่มนี้" และระบบภายในมีหลายวิธีในการเปิดใช้งานกระบวนการภายในแคปซูลดังกล่าว รวมถึงการสั่งการด้วยการจับการเคลื่อนไหวของดวงตา และการควบคุมด้วยเสียงสำหรับผู้ที่เคลื่อนไหวได้ไม่มาก


เมื่อระบบฆ่าตัวตายถูกเปิดใช้งานแล้ว จะไม่มีทางหยุดการทำงานของเครื่องได้ ซึ่งหมายถึงว่าจะต้องตายเท่านั้น


รายงานระบุว่า แคปซูลดังกล่าวเพิ่งถูกใช้งานที่ป่าแห่งหนึ่งใกล้ชายแดนเยอรมนี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยนี่อาจเป็นครั้งแรกของโลกที่อุปกรณ์ชนิดนี้ถูกใช้งาน ท่ามกลางการถกเถียงอย่างหนักเรื่องการใช้แคปซูลนี้ เนื่องจากมันทำให้คนจบชีวิตตัวเองได้โดยไม่ต้องมีการกำกับดูแลทางการแพทย์


อลิซเบธ เบาม์-ชไนเดอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ของสวิตเซอร์แลนด์ ยืนยันในการประชุมสภาว่า เครื่องซาร์โกนั้นไม่ถูกกฎหมาย ด้วยเหตุผล 2 ประการคือ ไม่ผ่านมาตรฐานกฎหมายความความปลอดภัยผลิตภัณฑ์ จึงไม่สามารถนำเข้าสู่ตลาดได้ และการใช้ไนโตรเจนในกรณีนี้ไม่ตรงกับจุดประสงค์ของกฎหมายว่าด้วยสารเคมี


ทั้งนี้ ผู้ที่ใช้งานอุปกรณ์ชิ้นนี้จบชีวิตตัวเองคือ หญิงวัย 64 ปี จากสหรัฐฯ ซึ่งเธอต้องทรมานกับปัญหาสุขภาพหลายอย่างเกี่ยวกับภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องรุนแรง มานานหลายปี โดยการใช้งานแคปซูลเกิดขึ้นในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นคาโนปี


แถลงการณ์ระบุด้วยว่า นอกจากหญิงรายนี้แล้ว มีเพียงคนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยคือ นาย โฟลเรียน วิลเลท ประธานร่วมของ ลาสต์ รีสอร์ท โดยเขาระบุว่า การเสียชีวิตของหญิงรายนี้เป็นไปอย่างสงบ และรวดเร็ว  


อย่างไรก็ตาม สำนักงานอัยการรัฐของสวิตเซอร์แลนด์ เปิดการสืบสวนคดีอาชญากรรม กับผู้ต้องสงสัยหลายคน ฐานยุยง ช่วยเหลือ และสนับสนุนการจบชีวิตตัวเอง ขณะที่ทางด้าน นาย นิตช์เก คนคิดค้นแคปซูลมรณะดังกล่าว ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า เขาพอใจที่เครื่องซาร์โก ทำงานอย่างที่ถูกออกแบบเอาไว้ คือทำให้เกิดการเสียชีวิตโดยสมัครใจโดยไม่ใช้ยาช่วยเหลือ ในเวลาที่คนผู้นั้นต้องการ


ทั้งนี้ การทำการุณยฆาตเชิงรับ (Passive euthanasia) หรือ การช่วยให้ผู้ป่วยหนักระยะสุดท้ายหรือรักษาไม่หายแล้ว จากไปอย่างสงบด้วยการปิดอุปกรณ์พยุงชีพ เป็นการกระทำที่ถูกกฎหมายในสวิตเซอร์แลนด์มานานหลายสิบปีแล้ว แต่การทำการุณยฆาตเชิงรุก (active euthanasia) เช่นการฉีดยาให้เสียชีวิต ยังคงผิดกฎหมายของสวิตเซอร์แลนด์