'กูเกิล' เจอฟ้องคดีใหญ่ครั้งที่ 2 ในรอบเดือน ฐานผูกขาดตลาดโฆษณาออนไลน์

'กูเกิล' ถูกไต่สวนคดีใหญ่อีกครั้ง หลังเพิ่งเจอคำตัดสินในเคสแรกไปแค่เดือนเดียว โดยในครั้งนี้ ทางการสหรัฐฯ กล่าวหาว่า กูเกิลว่าครอบงำเทคโนโลยีโฆษณาทางออนไลน์ และกีดกันขัดขวางการแข่งขัน ซึ่งการไต่สวนดำเนินคดีรอบนี้ เริ่มต้นในวันจันทร์ ที่ศาลสหรัฐฯ รัฐเวอร์จิเนีย หลังจากเมื่อเดือนที่แล้ว กูเกิลเพิ่งถูกผู้พิพากษาตัดสินเมื่อเดือนที่แล้วว่า มีพฤติการณ์ผูกขาดตลาด

กระทรวงยุติธรรมในนามของรัฐบาลสหรัฐฯ  และสำนักงานอัยการของหลาย ๆ รัฐที่เข้ามาร่วมมือเป็นกลุ่มพันธมิตร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีที่สองนี้ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับในคดีแรก โดยครั้งนี้เน้นที่เทคโนโลยีโฆษณา ซึ่งหมายถึงระบบอันซับซ้อนที่กำหนดโฆษณาออนไลน์ซึ่งผู้บริโภคจะได้เห็น และค่าธรรมเนียมที่จะเรียกเก็บจากผู้ลงโฆษณา

คำฟ้อง ระบุว่า กูเกิลได้สร้าง และคงการผูกขาดเทคโนโลยี ซึ่งทำหน้าที่จับคู่ระหว่างผู้จัดทำและเผยแพร่เนื้อหา (publishers) ทางออนไลน์ กับผู้ที่ต้องการลงโฆษณา (advertisers) ทางออนไลน์ เป็นการครอบงำซอฟต์แวร์ทั้งทางฝั่งคนซื้อและทางฝั่งคนขายในธุรกรรม โดยกูเกิลจะหักส่วนแบ่งไปถึง 36 เซ็นต์จากทุก 1 ดอลลาร์ ในการทำหน้าที่เป็นตัวกลางการซื้อขายระหว่างผู้จัดทำและเผยแพร่เนื้อหา กับผู้ลงโฆษณา

อีกทั้งกูเกิลยังใช้ทั้งวิธีการที่ต่อต้านการแข่งขัน การกีดกันคู่แข่ง ตลอดจนวิธีการอื่น ๆ ที่ผิดกฎหมายเพื่อขจัด หรือทำลายการครอบงำเทคโนโลยีโฆษณาดิจิตอลของตน

คณะอัยการ ยังกล่าวหาว่า กูเกิลมีการใช้อิทธิพลทางการเงินเข้าซื้อบริษัทที่อาจกลายเป็นคู่แข่ง และผูกขาดตลาดเทคโนโลยีโฆษณาเอาไว้ ทำให้ผู้โฆษณา และผู้จัดทำและเผยแพร่เนื้อหา ไม่มีทางเลือกอื่น ดังนั้น รัฐบาลจึงเรียกร้องต้องการให้กูเกิลขายธุรกิจเทคโนโลยีโฆษณาบางส่วนออกไป

การไต่สวนคดีนี้คาดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์ และต้องเรียกพยานอีกหลายคน และยังต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าที่ผู้พิพากษาจะตัดสิน โดยหากพบว่าผิดจริง จะมีการไต่สวนแยกต่างหากเพื่อพิจารณาว่า จะบังคับให้กูเกิลทำอย่างไร ในการปฏิบัติตามคำวินิจฉัยตัดสินของผู้พิพากษา