แอฟริกาประกาศให้ 'ฝีดาษลิง' เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของทวีปแล้ว

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกา (ACDC) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านสาธารณสุขสูงสุดของทวีปแอฟริกา ประกาศให้ 'เอ็มพ็อกซ์' (Mpox) หรือที่เคยรู้จักกันในชื่อ 'ฝีดาษลิง' เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของทวีปแล้ว หลังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

นักวิทยาศาสตร์ของเอซีดีซี ระบุว่า พวกเขากังวลเรื่องการระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อเอ็มพ็อกซ์สายพันธุ์ใหม่ ที่กำลังแพร่กระจายอยู่ตอนนี้ ซึ่งการประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข จะทำให้รัฐบาลต่าง ๆ สามารถร่วมมือกันเพื่อรับมือ  และเพิ่มการขนส่งเสบียงทางการแพทย์ และความช่วยเหลือ ไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

ทั้งนี้ หลายประเทศในแอฟริกากำลังเผชิญการระบาดอย่างหนัก เช่น บุรุนดี / สาธารณรัฐแอฟริกากลาง / เคนยา / รวันดา

แต่ที่หนักที่สุดคือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (ดีอาร์คองโก) พบผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 13,700 ราย และเสียชีวิตไปแล้ว 450 ศพ นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2567 เป็นต้นมา

ดร.จีน คาเซยา ผู้อำนวยการของเอซีดีซี เตือนว่า การระบาดของฝีดาษลิงอาจเลวร้ายลงจนอยู่เหนือการควบคุม หากไม่มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อควบคุมมันในทันที และว่า การประกาศนี้ ไม่ใช่แค่ประกาศเป็นพิธี แต่เป็นการส่งเสียงเรียกร้องให้มีการลงมือทำให้มันอยู่ในการควบคุม และกำจัดภัยคุกคามนี้

ทั้งนี้ หน่วยงานสาธารณสุขในภูมิภาคอื่น ๆ ก็กำลังจับตาสถานการณ์การระบาดของฝีดาษลิงในแอฟริกาเช่นกัน เพื่อประเมินว่ามีความเสี่ยงที่เชื้อจะแพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่น ๆ มากแค่ไหน โดยทางด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งยุโรป ระบุว่า ยุโรปยังคงเผชิญความเสี่ยงในระดับต่ำอยู่

ทั้งนี้ เชื้อฝีดาษลิงสามารถติดต่อจากสัตว์ไปสู่มนุษย์ และมนุษย์สู่มนุษย์ด้วยกันเองได้ ผ่านการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ / การสัมผัสผิวหนัง / การหายใจใกล้กัน

ผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงจะมีอาการทั่วไปคือ มีไข้ / ปวดกล้ามเนื้อ / มีตุ่มขึ้นตามร่างกาย หากปล่อยเอาไว้ไม่รับการรักษา ก็อาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้

ซึ่งในปัจจุบัน มีวัคซีนสำหรับป้องกันฝีดาษลิงทั้งหมด 3 ตัว แต่ตามปกติจะฉีดให้แก่ผู้มีความเสี่ยงติดโรคสูง หรือผู้ที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยเท่านั้น

------------