ต่างประเทศ

ไฟไหม้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่สุดยุโรป รัสเซียและยูเครน ต่างกล่าวหาว่าอีกฝ่ายทำ

โดย nattachat_c

13 ส.ค. 2567

399 views

รัสเซียและยูเครน ต่างกล่าวหากันและกันว่า เป็นผู้จุดไฟเผาในพื้นที่ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานว่าเกิดการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีในพื้นที่แต่อย่างใด

ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) หน่วยงานภายใต้องค์การสหประชาชาติ (UN) ซึ่งมีผู้ประจำการอยู่ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย ยืนยันว่า เกิดไฟไหม้จริง โดยจะเห็นควันดำพวยพุ่งออกมาจากพื้นที่ทางตอนเหนือของโรงไฟฟ้า หลังจากเกิดการระเบิดขึ้นหลายครั้ง

ราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการไอเออีเอ ออกแถลงการณ์เตือนว่า การโจมตีโดยประมาทเหล่านี้เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ได้ การโจมตีดังกล่าวจะต้องหยุดลงทันที

ขณะที่ สำนักข่าวท้องถิ่นของรัสเซีย รายงานอ้างข้อมูลจากบริษัทพลังงานนิวเคลียร์ โรซาทอม Rosatom ว่า จุดหลักที่เกิดไฟไหม้ถูกดับลงไม่นาน ก่อนเที่ยงคืน วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม

ด้าน ไอเออีเอ ระบุว่า ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อความปลอดภัยของนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย แต่ทีมงานได้รับแจ้งว่า มีการใช้โดรนโจมตีที่หอหล่อเย็นแห่งหนึ่งของโรงงาน

แม้ว่าขณะนี้ จะยังไม่ชัดเจนว่าอะไรเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ แต่ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวหาว่า รัสเซียเป็นฝ่ายจุดไฟ ที่มองเห็นได้จากเมืองนิโคโปล ที่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน

ทางด้าน บริษัท เอเนอร์โกทอม Energoatom ของยูเครนกล่าวโทษความประมาทเลินเล่อ หรือการวางเพลิงของรัสเซียว่า อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ พร้อมกับกล่าวหารัสเซียว่า ได้ใช้หอหล่อเย็นของโรงงานเป็นที่จัดเก็บอุปกรณ์ทางทหารและวัตถุระเบิด แต่ไม่มีการแสดงหลักฐานประกอบคำกล่าวหาแต่อย่างใด


ขณะที่ มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย กล่าวหายูเครนว่า พยายามทำลายโรงงาน และก่อการร้ายนิวเคลียร์โดยเจตนา

---------------

คุณอาจสนใจ