'สหรัฐฯ-รัสเซีย' สร้างประวัติศาสตร์ แลกนักโทษครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่สงครามเย็น

สหรัฐฯ ยืนยันวันพฤหัสบดีว่า ได้เเลกตัวนักโทษครั้งประวัติศาสตร์กับรัฐบาลมอสโก โดยผู้ที่ได้รับอิสรภาพจากคุกรัสเซีย รวมถึงอดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ พอล วีแลน ตลอดจน อีวาน เกิร์ชโควิช และ อัลซู เคอร์มาชีวา ซึ่งทั้งสองเป็นนักข่าว

นอกจากนั้น รัสเซียยังปล่อยตัว วลาดิเมียร์ คารา-เมอร์ซา ซึ่งมีสถานะเป็นผู้มีถิ่นพำนักถาวรในสหรัฐฯ รวมทั้งหมดแล้ว มีบุคคล 16 รายที่สหรัฐฯ ช่วยต่อรองให้ได้รับอิสรภาพ ในจำนวนดังกล่าวมีชาวเยอรมัน 5 คน และชาวรัสเซียอีก 7 คน ขณะที่ทางฝ่ายรัสเซีย ได้รับตัวบุคคล 8 ราย ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในสหรัฐฯ เยอรมนี โปแลนด์ นอร์เวย์ และสโลวีเนีย

การแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งนี้ถือเป็นการแลกตัวนักโทษระหว่างขั้วการเมืองโลกของ 'สหรัฐฯ-รัสเซีย' ครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่สงครามเย็น

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ชื่นชมผลของการเจรจา ที่ทำให้ชาวอเมริกัน 4 คน ได้กลับมาสหรัฐฯ จากคุกรัสเซีย ว่าเป็น 'ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ทางการทูต และว่า "วันนี้ความทุกข์ทรมานได้จบลงแล้ว" เขายังได้ขอบคุณพันธมิตรอย่าง เยอรมนี โปแลนด์ สโลวีเนีย นอร์เวย์ และตุรกี ที่ช่วยสหรัฐฯ ในภารกิจนี้

ฝั่งอเมริกัน วีแลน ผู้บริหารด้านความปลอดภัยจากรัฐมิชิแกน คือผู้ที่ถูกจับกุมในรัสเซียยาวนานที่สุด คือ ตั้งแต่ปี 2018 ขณะเดินทางไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อน และ ถูกสั่งจำคุก 16 ปี ด้วยข้อหาเป็นจารชน

ส่วน เกิร์ชโควิช นักข่าวของ 'เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล' ถูกควบคุมตัวเมื่อเดือนมีนาคม 2023 และถูกตัดสินว่า มีความผิดในข้อหาเป็นสายลับ ระหว่างการพิจารณาคดีแบบปิดเมื่อ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้รับเสียงประณามในวงกว้าง

ในฝั่งรัสเซีย ทำเนียบรัฐบาลเครมลินได้หารือการปล่อยตัว วาดิม คราซิคอฟ ที่ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตในเยอรมนี ในข้อตกลงนี้ด้วย ทั้งนี้ คราซิคอฟ ถูกตัดสินเมื่อปี 2019 ว่า มีความผิดฐานสังหารชาวจอร์เจียเชื้อชายเชเชน ที่ลี้ภัยมาอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน และเขาเคยอยู่ในโต๊ะเจรจาแลกเปลี่ยนตัวประกันกับ อเล็กเซ นาวาลนี ผู้นำฝ่ายค้านรัสเซีย ที่เสียชีวิตเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้

-------------