'ดูไบ' ยัน ฝนถล่มหนักไม่ใช่เพราะการทำฝนเทียม แต่เป็นเพราะโลกร้อน ทำฝนหนักสุดในรอบ 75 ปี

จากสถานการณ์ มหานครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ถูกพายุฝนถล่มอย่างหนัก จนถือเป็นพายุฝนถล่มหนักที่สุดใน 75 ปี ทำให้เกิดความปั่นป่วนไปทั่วเมือง

ซึ่งหลายฝ่ายได้เกิดข้อสงสัยว่า พายุฝนที่ถล่มลงมานั้น อาจจะเกิดจากการทำฝนเทียมในภูมิภาคดังกล่าว ที่เรียกว่า 'การเพาะเมฆ' (คลาวด์ ซีดดิ้ง : Cloud Seeding) ซึ่งเป็นกระบวนการที่สารเคมีถูกฝังลงในเมฆ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำฝน ในสภาพแวดล้อมที่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำ เนื่องจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคที่ร้อนที่สุด และแห้งแล้งที่สุดในโลก กำลังเป็นผู้นำในการเพาะเมฆ และเพิ่มปริมาณฝน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ยืนยันกับสำนักข่าวรอยเตอร์ส ว่า ไม่มีปฏิบัติทำฝนเทียมดังกล่าว ก่อนจะเกิดพายุรุนแรงครั้งนี้ขึ้น

โดย ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า ฝนตกหนักครั้งนี้ น่าจะเกิดจากระบบสภาพอากาศปกติที่เลวร้ายลง จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

อสรา อัลนักบี นักพยากรณ์อาวุโส ประจำศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวว่า ระบบความกดอากาศต่ำในชั้นบรรยากาศชั้นบน ควบคู่ไปกับ ความกดอากาศต่ำที่พื้นผิว ทำหน้าที่เหมือนแรงดัน 'บีบ' ในอากาศ  

ซึ่งการบีบตัวดังกล่าวรุนแรงขึ้น จากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิที่อุ่นขึ้น ที่ระดับพื้นดิน กับ อุณหภูมิที่เย็นกว่า ที่สูงขึ้นไป ทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรง ซึ่งถือว่าเป็น 'ปรากฏการณ์ที่ผิดปกติ' เนื่องจากเมื่อฤดูกาลเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดความกดดันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมเสริมว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก็มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดพายุด้วย

ทั้งนี้ มหานครดูไบยังคงอยู่ในภาวะปั่นป่วน หลังเผชิญฝนตกหนักที่สุดในรอบ 75 ปี จนทำให้การจราจรเป็นอัมพาต บริการของสนามบิน และเที่ยวบินต่าง ๆ ติดขัด กระทบยาวมาจนถึงเมื่อวานนี้

รายงาน ระบุว่า บางพื้นที่รับน้ำฝนมากกว่า 250 มม. ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง หรือสูงกว่าค่าเฉลี่ยน้ำฝนตลอดปี เกินเท่าตัว

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมท้องถนน ต้นปาล์มหักโค่น อาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหาย โดย ยูเออีไม่เคยเจอฝนรุนแรงขนาดนี้ นับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกสถิติในปี 2472 ทำให้น้ำท่วมอย่างรวดเร็ว จนผู้ใช้รถใช้ถนนบางคนตัดสินใจสละยานพาหนะของตัวเอง เพื่อหนีจากถนนที่มีสภาพกลายเป็นเหมือนแม่น้ำ

มีภาพจากภายในของสถานีรถไฟใต้ดินในดูไบ เมื่อวานนี้ ซึ่งเจิ่งนองไปด้วยน้ำ สร้างความปั่นป่วนกระทบผู้คนอย่างหนัก

มีภาพจากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่ถูกน้ำท่วม หลังจากพายุได้ทำให้โครงสร้างหลังคาของห้างได้รับความเสียหาย ทำให้น้ำได้ทะลักลงมา

มีภาพที่ถ่ายโดยผู้โดยสารที่ติดอยู่ในเครื่องบิน ที่สนามบินเมืองดูไบ ที่ไม่สามารถเคลื่อนตัวไปไหนได้ โดยในช่วงเวลาเพียงพริบตา ฝนก็ได้กระหน่ำถล่มอย่างหนัก  และทำให้เกิดน้ำท่วม ทั้งทางขับ ทางวิ่ง และลานจอดเครื่องบิน อย่างรวดเร็ว

โดยที่ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ รับน้ำฝนมากกว่า 100 มม. ภายในเวลาเพียง 12 ชั่วโมง เท่านั้น ทำให้ต้องหยุดรับเที่ยวบินขาเข้านานหลายชั่วโมง เพราะน้ำท่วมสูง และการหยุดชะงักยังดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงวันพุธ แม้ว่าพายุจะผ่านพ้นไปแล้ว เนื่องจากถนนมุ่งหน้าสู่สนามบินยังคงถูกปิดกั้น เพราะน้ำท่วมขัง

สายการบินมากมาย รวมถึงสายการบินแห่งชาติอย่าง ‘เอมิเรตส์’ ต้องยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมาก และมีคนติดค้างที่สนามบินทำให้เกิดความวุ่นวายไปทั่ว ขณะที่สายการบิน ต้นทุนต่ำ ‘ฟลายดูไบ’ ยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมด จนถึง 10.00 น. วันพุธ

โดยในช่วงเช้าวันพุธ ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ออกคำแนะนำใหม่ถึงผู้โดยสาร ว่า อย่ามาสนามบินหากไม่จำเป็นจริง ๆ เพราะเที่ยวบินจำนวนมากยังคงประสบปัญหาดีเลย์ และบางเที่ยวต้องเปลี่ยนเส้นทาง

-------------