ทหารสหรัฐฯ ดับ 3 ศพ ในจอร์แดน หลังถูกโดรนถล่ม ครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามกาซา

ทหารสหรัฐฯในตะวันออกกลาง ถูกสังหารเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่สงครามในฉนวนกาซาเริ่มขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว หวั่นสถานการณ์ในภูมิภาคบานปลายขึ้นไปอีก

สำนักข่าวข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ทหารสหรัฐฯ ถูกกสังหาร 3 ศพ และบาดเจ็บ 30 ราย ในการโจมตีด้วยโดรน เมื่อช่วงข้ามคืนวันเสาร์เข้าสู่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ฐานทัพขนาดเล็กในประเทศจอร์แดน นับเป็นครั้งแรกที่มีทหารอเมริกันถูกสังหารในตะวันออกกลาง นับตั้งแต่สงครามในกาซาเริ่มขึ้นเมื่อตุลาคมปีก่อน

กองบัญชาการกลางของกองทัพสหรัฐฯ ยืนยันผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ ดังกล่าว หลังโดรนพุ่งเข้าใส่หอคอย 22 ที่ฐานทัพสหรัฐฯ บริเวณชายแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือของจอร์แดนติดกับประเทศซีเรีย โดยกล่าวหาว่า เป็นโดรนของกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านสนับสนุน และเหมือนว่าจะถูกส่งออกมาจากซีเรีย

ทางด้าน ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ประกาศกร้าวในวันอาทิตย์ว่า จะลงโทษผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อการโจมตีครั้งนี้ และระบุว่า ถึงแม้ตอนนี้ จะอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อเท็จจริง แต่พวกเขารู้ว่านี่เป็นการโจมตีโดยกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรง ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน และกำลังเคลื่อนไหวในซีเรียกับอิรัก

ทั้งนี้ จนถึงวันศุกร์ที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา สหรัฐฯ และกองกำลังชาติพันธมิตร ในอิรักและซีเรีย โดยโจมตีไปแล้วไม่น้อยกว่า 158 ครั้ง แต่เจ้าหน้าที่อ้างว่า การโจมตีด้วยโดรน, จรวด และขีปนาวุธดังกล่าว ประสบความล้มเหลว เนื่องจากไม่สามารถสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานหรือทำให้มีผู้บาดเจ็บรุนแรงได้

อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่า เหตุใดระบบป้องกันทางอากาศจึงล้มเหลวในการป้องกันการโจมตีที่หอคอย 22 ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ไปประจำการตามภารกิจแนะนำ และสนับสนุนทหารจอร์แดน ซึ่งการโจมตีครั้งนี้ ยิ่งทำให้ สถานการณ์ในตะวันออกกลางที่เปราะบางอยู่ แล้วบานปลายเข้าไปอีก ทั้ง ๆ ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ย้ำมาตลอดว่า ไม่ต้องการให้ความตึงเครียดในตะวันออกกลางสูงขึ้นจนกลายเป็นสงครามระดับภูมิภาค

---------------