'สี จิ้นผิง' เยือนเวียดนามครั้งแรกในรอบ 6 ปี ชูความสัมพันธ์ขั้นใหม่ เพื่อคานอำนาจสหรัฐฯ

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน เรียกร้องพัฒนาการใหม่ในความสัมพันธ์จีน-เวียดนาม ในโอกาสเยือนเวียดนามครั้งแรกในรอบ 6 ปี เพื่อแสวงหาทางคานอิทธิพลของสหรัฐฯในเวียดนามที่เพิ่มมากขึ้น

โดย สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และ เหวียน ฝูจ่อง เลขาธิการใหญ่ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ได้เข้าร่วมพิธีต้อนรับที่ทำเนียบประธานาธิบดี ในกรุงฮานอย เมื่อ 12 ธ.ค. 2566

ผู้นำจีน ได้พบปะหารือกับ เหวียน ฝูจ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ซึ่งผู้นำจีนกล่าวว่า "จีนสนับสนุนเวียดนามอย่างแข็งขันต่อการก่อสร้างสังคมนิยม และมองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างจีน-เวียดนามเสมอ จากมุมมองเชิงกลยุทธ์ และระยะยาวด้วย อีกทั้ง จีนใยังห้ความสำคัญกับความสัมพันธ์กับเวียดนามเป็นอันดับแรก ในการทูตในระดับท้องถิ่น

ความเคลื่อนไหวดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากเวียดนามยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับสหรัฐฯ สู่หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม ในครั้งที่ โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯเยือนเวียดนาม ในเดือน ก.ย. 2566 ที่ผ่านมา

ซึ่งการเยือนเวียดนามของ โจ ไบเดน ในครั้งนั้น เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของสหรัฐฯ เพื่อสกัดกั้นอำนาจทางเศรษฐกิจของจีนทั่วโลก และเพื่อรับประกันอุปทานวัตถุดิบสำคัญ ในภาคการผลิตเทคโนโลยีล้ำสมัย

ทางด้านสื่อจีนรายงานประเด็นหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์จีน-เวียดนาม ที่มีทิศทางที่แน่นอน ในเชิงยุทธศาสตร์ และในภาพรวม ตลอดจนปัญหาในภูมิภาคและโลก ที่สนใจร่วมกัน เพื่อผลักดันความสัมพันธ์ไปสู่พัฒนาการใหม่ ซึ่ง สี จิ้นผิง อาจผลักดันให้เวียดนามร่วมโครงการประชาคมที่มีชะตากรรมร่วมกัน โดยเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ความร่วมมือในอนาคตด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และการเมือง

นักวิเคราะห์หลายคน ระบุว่า จุดประสงค์ของ สี จิ้นผิง เหมือนกับ โจ ไบเดน คือ สี จิ้นผิง อาจแสวงหาความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นเกี่ยวกับแร่ 'แรร์เอิร์ธ' หรือธาตุหายาก ทรัพยากรยุทธศาสตร์สำคัญของเวียดนาม ที่ใช้ในการผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยีล้ำสมัย รวมถึงสมาร์ตโฟน และแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า

--------------