รองนายกฯ จีนประกาศ ‘ภารกิจควบคุมโรคใหม่’ ส่งสัญญาณผ่อนปรนนโยบายโควิดเป็นศูนย์

ภายหลังจากที่เกิดกระแสการประท้วงต่อต้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์ในหลายเมืองของจีน ล่าสุดทางการจีนมีท่าทีผ่อนคลายนโยบายดังกล่าวลงบ้างแล้ว

โดยล่าสุด นางซุน ชุนหลาน รองนายกรัฐมนตรีจีนซึ่งรับผิดชอบดูแลนโยบายโควิด-19 ได้ประชุมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแห่งชาติจีน เมื่อวานนี้ ย้ำว่า จีนกำลังเข้าสู่ “ขั้นตอนและภารกิจใหม่” ในการควบคุมโรคระบาด ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณกลายๆ ว่าปักกิ่งอาจจะมีการผ่อนปรนยุทธศาสตร์ “โควิดเป็นศูนย์” เพื่อบรรเทากระแสชุมนุมประท้วงที่ลุกลามไปทั่วประเทศอยู่ในตอนนี้

นางซุน  ระบุว่า  เนื่องจากไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนมีความรุนแรง (toxicity) น้อยลงเรื่อยๆ อีกทั้งอัตราการฉีดวัคซีนก็เพิ่มขึ้น และประชาชนได้สั่งสมประสบการณ์ในการควบคุมและป้องกันโรคมาพอสมควร มาตรการควบคุมโรคระบาดของจีนจึงจะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนและภารกิจใหม่

พร้อมกันนั้น ซุนยังย้ำให้ทุกฝ่ายใช้แนวทางที่ “เน้นคนเป็นศูนย์กลาง” พร้อมระบุว่า จีนควรที่จะยกระดับการวินิจฉัยโรค การตรวจหาเชื้อ การรักษา และการกักกันโรค และรณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นให้มากขึ้นอีก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ อีกทั้งยังต้องระดมทรัพยากรทางการแพทย์ให้มากขึ้นด้วย

ถ้อยแถลงของ นางซุน มีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (เอ็นเอชซี) ประกาศว่ากำลังมีการปรับปรุงแก้ไขมาตรการควบคุมโรคในปัจจุบัน และขอให้ฝ่ายบริหารในท้องถิ่นต่างๆ ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องที่มีเหตุผลของประชาชนอย่างทันท่วงที”

ทั้งนี้ บางเมืองใหญ่ของจีนเช่น นครกว่างโจวก็ได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มลงบ้างแล้วตั้งแต่เมื่อค่ำวันอังคาร  โดยทางเมืองได้ปรับลดระดับความเสี่ยงและแนวทางการควบคุมโรคใน 11 เขตของเมือง พร้อมทั้งยกเลิกคำสั่งล็อกดาวน์ 4 เขตใหญ่โดยยังคงไว้เฉพาะบางพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงเท่านั้น

อีกทั้ง ยังยกเลิกนโยบายส่งตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโควิดทุกคนไปเข้าศูนย์กักกันโรคกลาง และอนุญาตให้ใช้วิธี “กักตัวที่บ้าน” ได้หากเป็นไปตามข้อกำหนด และยังยกเลิกการระดมตรวจเชื้อประชาชนทั่วทั้งเขตด้วย