'อี แจ ยอง' ขึ้นนั่งประธานบริหารซัมซุงแล้ว ขณะกำไรไตรมาส 3 ร่วง 30%

เมื่อวานนี้  “บริษัท ซัมซุง อิเลคทรอนิคส์” ยักษ์ใหญ่ทางธุรกิจของเกาหลีใต้ ได้ประกาศแต่งตั้งให้ นายอี แจ ยอง ทายาทของอดีตผู้บริหารสูงสุดของซัมซุง กรุ๊ป ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานบริษัทและเคยต้องโทษจากคดีติดสินบนและฉ้อโกง ขึ้นเป็นประธานบริหารของซัมซุงคนใหม่

ความเคลื่อนไหว นี้ สะท้อนให้เห็นว่า   ซัมซุงได้เข้าสู่การเปลี่ยนถ่ายสู่ผู้นำรุ่น 3 แห่งตระกูล “อี” ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรธุรกิจยักษ์ใหญ่แห่งนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายอี แจ ยอง อายุ 54 ปี ถือเป็นนายใหญ่โดยพฤตินัยของซัมซุง กรุ๊ป มาหลายปีแล้วนับจากนายอี กุน ฮี ผู้เป็นบิดาและประธานบริหารของซัมซุง ล้มป่วยลงจนเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ก่อนจะเสียชีวิตลงในปี 2020

นาย อี แจ ยอง ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งรองประธานบริษัทซัมซุง อิเลคทรอนิคส์ ตั้งแต่ปี 2012 ที่รอขึ้นสืบทอดอำนาจควบคุมอาณาจักรธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้แห่งนี้ และเคยต้องเผชิญกับกรณีอื้อฉาวในคดีติดสินบนและฉ้อโกงในปี 2017 ซึ่งถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดและได้รับโทษจำคุก แต่ อี แจ ยอง ได้รับการอภัยโทษจากประธานาธิบดีและได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำภายใต้ทัณฑ์บนในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว หลังจากถูกจองจำอยู่ในคุก 207 วัน ซึ่งเป็นการชดใช้โทษเพียงกว่าครึ่งหนึ่งจากโทษจำคุกที่เขาได้รับ

 การขึ้นเป็นประธานบริหารสูงสุดของกลุ่มบริษัทซัมซุง ยังมีขึ้นในวันเดียวกับที่ ซัมซุง ผู้ผลิตชิปและสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่โลก ประกาศผลกำไรในไตรมาส 3 ของปีนี้ว่า ลดลงไปมากถึง 31% โดยมีกำไรอยู่ที่ 10 ล้านล้านวอน ลดลงจาก 15.8 ล้านล้านวอนในไตรมาสเดียวกันนี้ของปีที่แล้ว พร้อมกับเตือนว่าความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทั่วโลกอาจทำให้ความต้องการสินค้าในตลาดซบเซาลงไปจนถึงปีหน้าได้ ขณะที่เศรษฐกิจโลกที่อยู่ในช่วงขาลงได้ส่งผลกระทบต่อตลาดอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์